สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ นักลงทุนทุกท่านครับ ^^ จะดีแค่ไหนกันนะ ถ้าเราสามารถที่จะได้รับผลตอบแทนเทียบเท่ากับ “การเป็นเจ้าของกลไกทางเศรษฐกิจและสินทรัพย์ของโลกใบนี้ทั้งใบ” โดยที่เราแทบไม่ต้องทำอะไรเลย?
ในบทความนี้ SiamQuant จะพาทุกคนไปรู้จักกับแนวทางในการจัดพอร์ตการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์แบบ Global Market Portfolio (GMP) ซึ่งจะช่วยให้คุณมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ไกล้เคียงกับการเป็นเจ้าของกลไกเศรษฐกิจของโลกใบนี้ ซึ่งเปรียบเสมือนกับการได้รับผลตอบแทนในอุดมคติของนักลงทุนเชิงรับหรือ Passive Investors ทุกคน ที่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจโลกเลยก็ว่าได้
ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว GMP ยังไม่ได้เป็นเพียงแค่กลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุน แต่มันยังเป็น บรรทัดฐาน (Benchmark) ที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง ในการวัดผลตอบแทนของกลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุนในรูปแบบอื่นๆอีกด้วย เนื่องจากมันถือเป็นผลตอบแทนในภาพรวมของสินทรัพย์การลงทุนทุกอย่างในโลกใบนี้นั่นเอง
ขอเชิญทุกท่านมาทำความเข้าใจถึงแก่นแท้ของแนวคิดนี้ไปพร้อมกันนะครับ 😀
1. ต้นกำเนิดแนวคิดการลงทุนที่ครอบคลุมสินทรัพย์ทั้งโลก
ในการที่จะเข้าใจถึงรากเหง้าของแนวคิดในการจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Global Market Portfolio (GMP) นั้น เราจะต้องเริ่มจากการย้อนกลับไปพูดถึงแนวคิดของทฤษฎีการจัดพอร์ตการลงทุนสมัยใหม่หรือ Modern Portfolio Theory กันสักเล็กน้อยกันก่อนนะครับ
โดยที่จุดกำเนิดของแนวคิดการจัดพอร์ตโฟลิโอสมัยใหม่นั้น เกิดขึ้นเมื่อย้อนกลับไปในช่วงปี ค.ศ. 1952 เมื่อ Harry M. Markowitz (ซึ่งภายหลังได้รับโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์) ได้แผยแพร่และตีพิมพ์บทความเรื่อง “Portfolio Selection” ซึ่งถือเป็นรากฐานของ ทฤษฎีพอร์ตโฟลิโอสมัยใหม่ (Modern Portfolio Theory – MPT) ขึ้นเป็นครั้งแรกบนโลกใบนี้
โดย Markowitz ได้แสดงให้เห็นผ่านแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ว่า การผสมผสานสินทรัพย์ที่มีรูปแบบผลตอบแทนแตกต่างกัน (มีความสัมพันธ์กันไม่สมบูรณ์) จะสามารถลดความผันผวนโดยรวมของพอร์ตโฟลิโอลงได้โดยไม่จำเป็นต้องลดผลตอบแทนคาดหวังลงเสมอไป แนวคิดนี้ได้ปฏิวัติวงการการเงินและทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลในเวลาต่อมา
หลังจากนั้น ทฤษฎี MPT จึงได้รับการพัฒนาต่อยอดมาสู่ แบบจำลองการตั้งราคาหลักทรัพย์ (Capital Asset Pricing Model – CAPM) ซึ่งเป็นทฤษฎีการหาผลตอบแทนคาดหวังของสินทรัพย์ต่างๆ ที่สร้างขึ้นบนรากฐานแนวคิดของ MPT โดยเพิ่มชุดสมมติฐานบางประการเข้าไป (เช่น นักลงทุนทุกคนเข้าถึงข้อมูลเดียวกันและมีความคาดหวังเหมือนกัน) จนนำไปสู่ข้อสรุปที่ทรงพลังและเป็นรากฐานสำคัญของแนวคิดของ GMP นั่นก็คือ ภายใต้ทฤษฏีดังกล่าวนี้ จะมีพอร์ตโฟลิโอของสินทรัพย์เสี่ยงเพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในระยะยาวสำหรับนักลงทุนทุกคน ไม่ว่าจะมีความชอบในความเสี่ยงต่างกันอย่างไรก็ตาม ซึ่งนั่นก็คือ “พอร์ตโฟลิโอตลาด” (Market Portfolio or Tangen Portfolio) อันหมายถึงพอร์ตการลงทุนที่ประกอบด้วยสินทรัพย์เสี่ยงทุกชนิดในโลกทั้งหมดเข้าด้วยกัน และนี่ก็คือที่มาในการกำเนิดของแนวคิดการจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Global Market Portfolio (GMAP) ขึ้นนั่นเอง!

ภาพที่ 1: ภาพแสดงตำแหน่งของพอร์ตตลาดโลก Global Market Portfolio บนกราฟของผลตอบแทนคาดหวัง (Expected Return) และความเสี่ยง (Standard Deviation) ซึ่งตำแหน่งของพอร์ตตลาดนั้นจะอยู่ตรงจุดสีแดง ซึ่งเป็นจุดสัมผัสระหว่างเส้น Efficient Frontier และ Risk Free Rate – Tangent Line ซึ่งถือเป็นพอร์ตการลงทุนที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในการจัดสรรสินทรัพย์การลงทุน
2. แก่นแนวคิดหลักของการจัดพอร์ตการลงทุนแบบตลาดโลก Global Market Portfolio (GMP)
จากที่ได้กล่าวถึงต้นกำเนิดของมันมาแล้วนั้น เราจะเห็นได้ว่าแท้จริงแล้วรากฐานแนวคิดของ Global Market Portfolio (GMP) ก็คือการนำเอาแนวคิดของทฤษฎีตลาดมีประสิทธิภาพ (Efficient Market Hypothesis – EMH) มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการลงทุนขึ้นนั่นเอง โดยเริ่มต้นจากการยอมรับในประสิทธิภาพของตลาด ว่าการพยายามเอาชนะตลาดอย่างสม่ำเสมอในระยะยาวเป็นเรื่องที่ทำได้ยากอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ และเปลี่ยนกระบวนทัศน์จากการพยายาม “เอาชนะตลาด” มาเป็นการ “เป็นเจ้าของตลาด” ทั้งหมดแทน ด้วยการสร้างพอร์ตการลงทุนแบบ Global Market Portfolio ขึ้นนั่นเอง
โดยที่ Global Market Portfolio (GMP) นั้น ก็คือพอร์ตการลงทุนที่ประกอบด้วยสินทรัพย์เสี่ยงทุกชนิดที่มีสภาพคล่องและสามารถลงทุนได้ทั่วโลก (Risky & Liquid Assets) โดยจัดสัดส่วนตามมูลค่าตลาดของสินทรัพย์แต่ละประเภท (All-Assets Market Capitalization Portfolio) โดยที่เราสามารถตรวจสอบถึงสัดส่วนมูลค่าตลาดของสินทรัพย์การลงทุนทั้งโลกใบนี้ ได้จากแหล่งข้อมูลหลักที่น่าเชื่อถือเหล่านี้
| สถาบันผู้อ้างอิง | เอกสาร/รายงาน | ข้อมูลที่ระบุ |
| State Street Global Advisors (SSGA) | “The Changing Makeup of the Global Market Portfolio” | เป็นแหล่งข้อมูลที่มีรายละเอียดสูงและเป็นที่ยอมรับมากที่สุดในปัจจุบัน (โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนสถาบัน) มีการระบุสัดส่วนของ ตราสารหนี้, ตราสารทุน, สินทรัพย์ทางเลือก (ทองคำ, Private Equity) โดยมีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ (มักจะมีการประมาณการสัดส่วน ณ สิ้นไตรมาส) |
| MSCI | “Sizing Up the Global-Market Portfolio” | MSCI จะประเมินมูลค่าตลาดรวมของสินทรัพย์หลัก ๆ (Fixed Income และ Public Equity) ทั่วโลก ซึ่งเป็นข้อมูลที่ใช้อ้างอิงขนาดและสัดส่วนหลักใน GMP |
| Academic Papers | “Historical Returns of the Market Portfolio” (โดย Doeswijk, Lam, and Swinkels) | งานวิจัยนี้เป็นรากฐานสำคัญที่รวบรวมข้อมูลผลตอบแทนทางประวัติศาสตร์และสัดส่วนของ GMP มาตั้งแต่ทศวรรษ 1960s (แม้ว่าข้อมูลจะเก่า แต่หลักการที่ใช้ยังคงเป็นที่ยอมรับ) |
ตารางที่ 1: ตารางแสดงตัวอย่างของแหล่งที่มาของข้อมูลในการประเมิณสัดส่วนมูลค่าสินทรัพย์ต่างๆในตลาดโลกที่น่าเชื่อถือ (Global Market Cap Weight)
โดยจากการประเมิณถึงสัดส่วนมูลค่าสินทรัพย์ต่างๆในตลาดโลกจากข้อมูลหลายๆแหล่งนั้น เราจึงสามารถที่จะทำการแบ่งหมวดหมู่และสัดส่วนมูลค่าสินทรัพย์โดยประมาณการณ์ของตลาดโลก (Global Market Cap Weight) และตลาดสหรัฐอเมริกา (US Market Cap Weight) ตามประเภทของสินทรัพย์หลักๆไม่กี่ประเภทได้ดังต่อไปนี้ (Simplified Global Market Cap Weight Proportion)
| หมวดหมู่สินทรัพย์ | สัดส่วนโดยประมาณ | ตัวแทนกองทุนดัชนี ETF |
| 1. ตราสารหนี้โลก (Fixed Income) | 50% – 55% | – BNDW (Global Bond) – BNDW (Global Bond Ex.US) – BND (US Bond) |
| 2. ตราสารทุนโลก (Public Equity) | 40% – 45% | – VT (Global Stock) – VEU (Global Stock Ex.US) – VTI (US Stock) |
| 3. อสังหาริมทรัพย์โลก (REIT) | 5% | – REET (Global REITs) – VNQI (Global RETIs Ex.US) – VNQ (US REITs) |
| 4. สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) | 5% | – DBC (Use with All Portfolio) |
| รวม | 100% |
ตารางที่ 2: ตารางประมาณการสัดส่วนมูลค่าสินทรัพย์ทั้งโลกโดยเฉลี่ยจากข้อมูลหลายๆแหล่งที่น่าเชื่อถือ
โดยที่เนื้อหาในส่วนถัดไปนั้น เราจะทำการวิจัยทดสอบย้อนหลังถึงประสิทธิภาพของพอร์ตตลาดโลกแบบ Global Market Portfolio (GMP) เปรียบเทียบกับสินทรัพย์แต่ละประเภทที่ถูกนำมาประกอบขึ้นมาเป็นพอร์ตตลาดโลก (Market Portfolio) เพื่อทำการวิเคราะห์เปรียบเทียบ
นอกจากนี้แล้ว เรายังจะทำการวิจัยทดสอบพอร์ตตลาดโลกแบบไม่รวมสหรัฐอเมริกา (Global Market Exclude US Portfolio) และพอร์ตตลาดสหรัฐอเมริกา (US Market Portfolio) เพื่อชี้ให้เห็นถึงประเด็นสำคัญต่างๆเพิ่มเติมต่อไปอีกด้วย
3. สูตรจัดพอร์ตการลงทุนและรายละเอียดการวิจัยทดสอบ (Research Methodology & Backtest Settings)
สำหรับการวิจัยทดสอบทฤษฎีและกลยุทธ์การลงทุนในบทความนี้นั้น SiamQuant จะทำการกำหนดสมมติฐานและเงื่อนไขของการวิจัยให้มีความเข้มงวดในระดับหนึ่ง (ไม่ใช่ในเชิงทฤษฎี) เพื่อให้สมจริงกับการนำไปประยุกต์ใช้และทำการลงทุนของนักลงทุนส่วนบุคคล (Individual Investor Backtesting Conditions) และเพื่อให้เกิดประโยชน์และสะท้อต่อมุมมองของผู้อ่านโดยทั่วไปมากที่สุดดังต่อไปนี้
| Condition | Details |
| Backtest Window | ค.ศ. 2015-2025 เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีข้อมูลในการทดสอบที่ครบถ้วนทั้งในแง่ของ – ETF ที่เป็นตัวแทนสินทรัพย์ต่างๆ – USD/THB Currency เพื่อใช้คำนวณผลกระทบจากค่าเงิน – USD Futures เพื่อใช้คำนวณผลกระทบการทำ Hedging |
| Backtest Setting | – เงินทุนเริ่มต้น: 1 ล้านบาท – ค่า Commission: 0.25%/Trade (รวม 0.5% ไปกลับ) – ค่า Slippage: 0.5%/Trade (รวม 1% ไปกลับ) – ภาษีกำไรจากการลงทุน ตปท: ไม่มีผลกระทบ – ค่าเงิน: ได้รับผลกระทบจากค่าเงิน USD/THB – ทำการทดสอบ Global Market Portfolio เปรียบเทียบกับสินทรัพย์แต่ละประเภทที่ประกอบขึ้นเป็นพอร์ตโลก – ทำการทดสอบ Global Market Portfolio เปรียบเทียบกับพอร์ตตลาดอีก 2 รูปแบบ เพื่อเปรียบเทียบและวิเคราะห์ถึงความแตกต่างกันคือ (1) Global Market Portfolio Exclude US พอร์ตตลาดโลกที่ไม่รวมสหรัฐอเมริกา (2) US Market Portfolio พอร์ตตลาดสหรัฐอเมริกา |
| Universe | กองทุนรวมดัชนี ETF ที่เป็นตัวแทนของสินทรัพย์การลงทุน โดย Symbol ในวงเล็บหมายถึง Symbol ที่ใช้ในการทดสอบเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกา – ตราสารหนี้โลก: BNDW (BND) – หุ้นโลก: VT (VTI) – อสังหาริมทรัพย์โลก: REET (VNQ) – สินค้าโภคภัณฑ์โลก: DBC (DBC) |
| Entry Filter | ไม่มีการคัดกรองเพิ่มเติม |
| Entry Conditions | ทำการเข้าซื้อและ Rebalance ทุกต้นปี (Yearly Rebalance) |
| Exit Conditions | ทำการขายออกทุกปลายปี |
| Position Size & Money Mgnt. | เข้าซื้อตามสัดส่วนมูลค่าของสินทรัพย์นั้นๆเทียบกับทั้งตลาด (Global Market Cap Weighting) โดย Symbol ที่อยู่ใน () คือ ETF สำหรับ US Market Portfolio Comparison – BNDW (BND) ร้อยละ 50% – VT (VTI) ร้อยละ 40% – REET (VNQ) ร้อยละ 5% – DBC (DBC) ร้อยละ 5% |
| Risk Management | ไม่มีการจัดการความเสี่ยงความเพิ่มเติม |
| Order Type | ซื้อและขายในวันทำการถัดไปหลังจากเกิดสัญญาณ |
| Monitoring Time Frame | ติดตามและตรวจสอบเป็นรายวัน |
ตารางที่ 3: รายละเอียดในการวิจัยทดสอบย้อนหลัง (Backtest Setting) และสูตรกลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุนแบบตลาดโลก Global Market Portfolio (GMP)
4. ผลลัพธ์และการวิเคราะห์ (Results & Analysis)
4.1 ผลตอบแทนของพอร์ต GMP เปรียบเทียบกับสินทรัพย์ต่างๆ

ภาพที่ 2: กราฟแสดงผลตอบแทน Global Market Portfolio เปรียบเทียบกับ Global Stock, Global Bond, Global REIT, Global Commodities ตั้งแต่ ค.ศ. 2015-2025 ที่ผ่านการกระทบค่าเงินบาท USD/THB แล้ว
| Portfolio Metrics | Global Market Portfolio | Global Stock | Global Bond | Global REIT | Global Commodities |
| Cumulative Profit | 0.61 | 1.86 | 0.21 | 0.44 | 0.39 |
| Annualized Return % (CAGR) | 4.57 | 10.28 | 1.76 | 3.49 | 3.14 |
| Ann. StDev | 8.45 | 16.46 | 6.79 | 17.98 | 17.41 |
| Max DD % | -15.43 | -30.81 | -14.37 | -42.26 | -43.28 |
| Longest DD (Months) | -25.29 | -23.38 | -40.14 | -44.86 | -72.81 |
| MAR Ratio | 0.30 | 0.33 | 0.12 | 0.08 | 0.07 |
| Ann. Sharpe (Rf = 3%) | 0.1 | 0.43 | -0.3 | 0.06 | 0.04 |
| Sortino Ratio | 0.02 | 0.04 | -0.01 | 0.01 | 0.01 |
| Correlation with GMP | 1 | 0.89 | 0.49 | 0.7422 | 0.419 |
ตารางที่ X: ค่าสถิติผลตอบแทน Global Market Portfolio เปรียบเทียบกับ Global Stock, Global Bond, Global REIT, Global Commodities ตั้งแต่ ค.ศ. 2015-2025 ที่ผ่านการกระทบค่าเงินบาท USD/THB แล้ว
โดยจากผลลัพธ์การวิจัยทดสอบกลยุทธ์การจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Global Market Portfolio (GMP) นั้น เราจะพบว่า
- GMP เป็นพอร์ตการลงทุนที่ได้ให้ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่เหนือกว่าการลงทุนในสินทรัพย์เพียงชนิดเดียวหลายๆประเภท โดยเฉพาะในแง่ของความเสี่ยงที่ลดลงอย่างชัดเจน ซึ่งจะเห็นได้ว่าพอร์ตการลงทุน GMP มีค่า Maximum Drawdown -15.9% เท่านั้น เมื่อเทียบกับ Maximum Drawdown ของสินทรัพย์รายตัวประเภทอื่นๆที่ประกอบขึ้นเป็นพอร์ต GMP เหล่านี้ (ยกเว้นตราสารหนี้โลก)
- ซึ่งข้อสังเกตที่น่าสนใจอย่างหนึ่งจากกราฟและตารางนี้ ก็คือการกระจุกตัวของผลตอบแทนของสินทรัพย์ต่างๆในสินทรัพย์เดียว (Single Asset Return Cluster) ซึ่งจะเห็นได้ว่าผลตอบแทนของพอร์ตตลาดโลกนั้น ได้ถูกขับเคลื่อนจากผลตอบแทนของตลาดหุ้นโลก (Global Stock) เป็นแก่นสำคัญในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จนทำให้หากเราทำการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆโดยไม่มีหุ้นโลกอยู่ในพอร์ตนั้น พอร์ตของเราก็จะแพ้พอร์ตหุ้นโลกหรือพอร์ตตลาดโลกไปอย่างขาดลอย
- นอกจากนี้แล้ว เมื่อเราลองมองไปยังกราฟผลตอบแทนทบต้นเคลื่อนที่แบบ 3 Years Rolling CAGR ในกราฟช่องตรงกลางนั้น เราจะเห็นได้ว่าผลตอบแทนของ GMP นั้นจะมีความเสถียรที่สูงกว่าการถือครองสินทรัพย์เพียงประเภทเดียวเป็นอย่างมาก โดยสังเกตได้จากการที่เส้น GMP สีดำนั้นแทบไม่เคยลดลงต่ำกว่า 0 เลย ซึ่งแปลว่าหากคุณลงทุนอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไปกับกลยุทธ์นี้นั้น คุณจะมีโอกาสขาดทุนที่น้อยมากๆไม่ว่าจะเริ่มต้นการลงทุนเมื่อใดก็ตาม
ด้วยเหตุนี้เอง พอร์ตการลงทุนแบบ GMP จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการพอร์ตการลงทุนซึ่งมีความเสถียรด้วยความเสี่ยงในระดับต่ำถึงปานกลาง โดยมีเป้าหมายในการได้รับผลตอบแทนและความเสี่ยงที่ที่มั่นคงและเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจโลกในระยะยาว โดยไม่ต้องคอยพะวงถึงการวิเคราะห์และพิจารณาถึงสภาวะทางเศรษฐกิจต่างๆในอนาคตอีกต่อไปนั่นเอง
4.2 พอร์ตการลงทุน GMP vs. GMP Ex. US vs. US Market Portfolio

ภาพที่ 3: กราฟแสดงผลตอบแทน Global Market Portfolio เปรียบเทียบกับ Global Ex-US Market Portfolio และ US Market Portfolio ที่ผ่านการกระทบค่าเงินบาท USD/THB แล้ว
| Portfolio Metrics | Global Market Portfolio | Global Market Ex. US | US Market Portfolio |
| Cumulative Profit | 0.61 | 0.40 | 0.82 |
| Annualized Return % (CAGR) | 4.57 | 3.19 | 5.73 |
| Ann. StDev | 8.45 | 7.94 | 9.29 |
| Max DD % | -15.43 | -18.14 | -15.73 |
| Longest DD (Months) | -25.29 | -31.33 | -24.76 |
| MAR Ratio | 0.30 | 0.18 | 0.36 |
| Ann. Sharpe (Rf = 3%) | 0.10 | -0.07 | 0.22 |
| Sortino Ratio | 0.02 | 0.00 | 0.03 |
| Correlation with GMP | 1 | 0.95 | 0.98 |
ตารางที่ X: ค่าสถิติการทดสอบย้อนหลัง Global Market Portfolio เปรียบเทียบกับ US Market Portfolio และ Ex-US Market Portfolio ตั้งแต่ ค.ศ. 2015-2025 ที่ผ่านการกระทบค่าเงินบาทแล้ว
โดยนอกเหนือจากผลทดสอบพอร์ตการลงทุนตลาดโลก GMP เปรียบเทียบกับสินทรัพย์รายตัวแล้ว เรายังได้ทำการทดสอบพอร์ตตลาดที่ไม่ได้รวมเอาสินทรัพย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา (GMP Exclude US Portfolio) และพอร์ตตลาดที่รวมสินทรัพย์เฉพาะของประเทศสหรัฐอเมริกา (US Market Portfolio) เพื่อทำการเปรียบเทียบถึงผลตอบแทนและความเสี่ยงของพวกมันออกมาด้วยเช่นเดียวกัน
โดยที่เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า จากข้อมูลที่เกิดขึ้นนั้น พอร์ตการลงทุนที่ได้ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ก็คือพอร์ตการลงทุนที่มาจากสินทรัพย์หรือตลาดของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นแกนหลัก โดยจะเห็นได้ว่าความพยายามในการกระความเสี่ยงด้วยสินทรัพย์จากประเทศอื่นๆนั้นได้ทำให้ผลตอบแทนของพอร์ตแย่ลงจากเดิมกันทั้งสิ้น โดยจะสังเกตได้อย่างชัดเจนจากผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนแบบ GMP Exclude US Portfolio ซึ่งไม่รวมสหรัฐอเมริกา พบว่าได้ให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าพอร์ตการลงทุนแบบ US Market Portfolio ที่เป็นสินทรัพย์จากสหรัฐอเมริกาอย่างมีนัยยะสำคัญเลยทีเดียว
ดังนั้นแล้ว ในบางครั้งการพยายามที่จะกระจายความเสี่ยงออกไปนอกเหนือจากประเทศซึ่งเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจและตลาดการเงินอย่างสหรัฐอเมริกานั้น ก็อาจที่จะไม่ได้ช่วยให้เกิดผลตอบแทนที่ดีขึ้นมากสักเท่าไหร่นัก ดังคำกล่าวของ Warren Buffett ที่ว่า “It’s never paid to bet againts america” หรือแปลเป็นไทยง่ายๆว่าอย่าแทงสวนทางกับอเมริกานั่นเอง (อย่างน้อยก็จนกว่าอเมริกาจะสูญเสียความเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจและตลาดการเงินไป)
5. บทสรุปของกลยุทธ์การจัดพอร์ตแบบตลาดโลก Global Market ตามอุดมคติของนักลงทุนเชิงรับแบบ Passive Investors
จากเรื่องราวและข้อมูลต่างๆที่ได้นำเสนอมาทั้งหมดในบทความนี้นั้น เชื่อว่านักลงทุนหลายคนคงเริ่มที่จะเห็นภาพของผลตอบแทนจากพอร์ตการลงทุนของตลาดโลกกันมากยิ่งขึ้นไม่มากก็น้อยกันแล้วนะครับ (Global Market Portfolio Return)
โดยที่ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดและผลตอบแทนของกลยุทธ์การจัดพอร์ตแบบ Global Market Portfolio (GMP) ในบทความนี้ จะเป็นรากฐานที่สำคัญในการวิเคราะห์ถึงผลลัพธ์ของการจัดพอร์ตการลงทุนในรูปแบบอื่นๆในบทความต่อๆไปหลังจากนี้
เนื่องจากผลตอบแทนของ GMP นั้น ถือได้ว่าเป็นผลตอบแทนของตลาดและสินทรัพย์ทางการเงินของทั้งโลก มันจึงถือเป็นดัชนีชี้วัดผลตอบแทนเทียบเคียงสำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนด้วยสินทรัพย์ต่างๆในเชิง Performance Comparative Benchmark ได้เป็นอย่างดี (คล้ายกับเวลาที่เราลงทุนในตลาดหุ้นไทยแล้ววัดผลด้วย SETTRI)
ด้วยเหตุนี้เองพอร์ตการลงทุนแบบ GMP จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดทั้งสำหรับนักลงทุนที่ต้องการจัดพอร์ตโดยได้รับผลตอบแทนเติบโตไปกับตลาดโลก อีกทั้งยังถือเป็น Performance Compartive Benchmark สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ อาทิเช่น 60/40, All Weather หรือ Core-Satellite ต่างๆที่เราจะได้พูดถึงกันในบทความต่อๆไปนั่นเอง
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับนักลงทุนไทยทุกคน แล้วเจอกันต่อในบทความหน้าครับ 😃
