เนื่องด้วยในช่วงขึ้นปีใหม่นี้ ผมเชื่อว่านักลงทุนหลายคนคงกำลังมองหาบทวิเคราะห์หรือ Market Outlook ต่างๆ เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดกันต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ผมอยากจะขอแนะนำในสิ่งที่อาจจะแปลกหูสักหน่อย แต่เชื่อว่าจะมีประโยชน์ต่อนักลงทุนทุกคนในระยะยาว ซึ่งนั่นก็คือ …
จงเริ่มต้นหันมามุ่งเน้นดำเนินกลยุทธ์ในสิ่งที่จะ “ไม่เปลี่ยนแปลง” ไปตามกาลเวลากันเถอะครับ!
จงมุ่งเน้นและทุ่มเทพลังลงไปในสิ่งที่จะไม่เปลี่ยนแปลง!
ใช่ครับ เราควรเลิกวิ่งไล่ตามความเปลี่ยนแปลงที่เปลือกนอก และมุ่งตั้งคำถามว่าอะไรคือสิ่งที่จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกระแส และน่าจะยังคงอยู่ไปอย่างน้อยอีกเป็น 10 ปีกันแทนต่างหาก!
นี่คือปรัชญาและแนวคิดของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Jeff Bezos ที่ได้เคยกล่าวเอาไว้ โดยสิ่งที่ เขาได้ถ่ายทอดไว้นั้นสามารถประยุกต์ได้กับทั้งเรื่องชีวิต, ธุรกิจ และการลงทุน ซึ่งนั่นก็คงไม่แปลกนัก เพราะพวกเราหลายคนอาจไม่รู้ว่าเขาเคยทำงานอยู่ในสุดยอดกองทุน Hedge Fund สาย Quant ที่ชื่อว่า D.E. Shaw และขึ้นดำรงตำแหน่ง vice presidents ในเวลาเพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น ก่อนที่จะลาออกมาก่อตั้งบริษัท Amazon จนทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในในปัจจุบัน
โดยที่ Jeff Bezos ได้กล่าวเอาไว้ว่า
“มักจะมีคนถามผมว่า : “อะไรคือสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปนับจากนี้อีก 10 ปี?” ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นคำถามที่ยอดฮิตที่น่าสนใจมากๆ อย่างไรก็ตาม แทบไม่มีคนถามผมเลยว่า : “อะไรคือสิ่งที่จะไม่เปลี่ยนแปลงไปนับจากนี้อีก 10 ปี?” ซึ่งเอาจริงๆแล้วผมอยากบอกว่าคำถามที่สองนั้นเป็นคำถามที่สำคัญกว่ามาก นั่นก็เพราะมันทำให้คุณสามารถวางแผนการณ์และกลยุทธ์ในระยะยาว บนสิ่งที่จะไม่เปลี่ยนแปลงไปมาตามกาลเวลาได้นั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น สำหรับธุรกิจค้าปลีกของเรานั้น เรารู้ว่าลูกค้านั้นชอบของถูก และผมรู้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ยังจะเป็นจริงไปอีก 10 ปีต่อจากนี้ นอกจากนี้พวกเขายังชอบการส่งของที่รวดเร็ว และพวกเขายังชอบที่จะมีของมากมายให้เลือกซื้ออีกด้วย
ผมคิดว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่อีก 10 ปีต่อจากนี้ลูกค้าจะเดินเข้ามาผมแล้วบอกว่า “Jeff ผมรัก Amazon นะ แต่ผมก็แค่หวังว่าราคาของสิ่งต่างๆจะแพงขึ้นอีกสักหน่อย หรือ ผมรัก Amazon นะ แต่ผมอยากให้คุณส่งของช้าลงสักหน่อย
… มันคือสิ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย!
ดังนั้นแล้ว ความพยายามทำสิ่งต่างๆของพวกเราจึงตั้งอยู่บนรากฐานเดียวกัน เพราะเรารู้ว่าพลังทุกอย่างที่เราทุ่มเทลงไปในวันนี้ จะยังคงให้ผลดีกับลูกค้าของเราในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเมื่อคุณรู้ว่าคุณมีสิ่งที่จะเป็นจริงต่อไปในอนาคตไม่ว่าเวลาจะผ่านไปสักเท่าไหร่ คุณก็จะสามารถใส่ความตั้งใจทั้งหมดของคุณลงไปได้อย่างเต็มที่นั่นเองครับ”
แล้วอะไรคือสิ่งที่จะไม่เปลี่ยนแปลงในโลกการลงทุนกันล่ะ?
สำหรับผมและทีมงาน SiamQuant ทุกคนแล้ว เราเชื่อว่าสิ่งที่จะไม่เปลี่ยนแปลงในโลกของการลงทุน คือการทำตามหลักการลงทุนที่ดี และระบบการลงทุนที่มีความเสถียรยั่งยืนในระยะยาวนั่นเองครับ!
โดยหากพิจารณาจากประโยคที่ Jeff Bezos กล่าวไว้ด้านบนจะเห็นได้ว่า สิ่งที่เขาได้กล่าวไว้นั้น ไม่ได้แตกต่างจากหลักการวิจัยออกแบบระบบการลงทุน และหลักการลงทุนที่ดีเลย ซึ่งนั่นก็คือการมองหาช่องโหว่หรือพฤติกรรมความไร้ประสิทธิภาพของตลาดที่ยั่งยืนในระยะยาว (เช่น Value, Growth, Momentum) แล้ววางกลยุทธ์หรือระบบการลงทุนอยู่บนความไร้ประสิทธิภาพนั้นๆ (Market Anomalies) โดยยึดมั่นและปฎิบัติการลงทุนอย่างมีวินัยระเบียบแบบแผน เพื่อคอยโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาวออกมานั่นเอง
นี่คือสิ่งที่นักลงทุนที่ยิ่งใหญ่รวมถึงสุดยอดกองทุนเชิง Quants หลายๆกองได้ยึดถือปฎิบัติและได้พิสูจน์มาอย่างยาวนานแล้วว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องรู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ขอเพียงแค่ยึดมั่นในหลักการลงทุนที่ดี และปฎิบัติตามหลักการเหล่านั้นอย่างแน่วแน่มั่นคงก็เพียงพอแล้ว
ลองคิดดูสิครับ Benjamin Graham, Warren Buffett, Charlie Munger, Walter Schloss, Peter Lynch, Jim Simon, Ray Dalio หรือนักลงทุนที่สุดยอดคนไหนเคยได้กล่าวไว้บ้างว่าการที่คุณจะประสบความสำเร็จในการลงทุนนั้น คุณต้องคาดการณ์ตลาดหรือหุ้นให้แม่นยำอยุ่ตลอดเวลา??? พวกเขากลับมักพูดกันด้วยซ้ำว่าการคาดการณ์ตลาดและเหตุการณ์ต่างๆในอนาคตนั้นเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้เสียด้วยซ้ำ!
ซึ่งอันที่จริงแล้ว ยิ่งคุณศึกษาเรื่องราวและแนวคิดของพวกเขา คุณจะยิ่งพบว่าแม้จะเป็นนักลงทุนที่ต่างสำนักต่างสไตล์กันอย่างสุดขั้ว แต่มุมมอง “ร่วม” ที่สำคัญกับเป็นการไม่พยายามคาดเดาตลาดเลยเสียต่างหาก (จนบางทีเราก็พลอยคิดไปว่าคำพยากรณ์ตลาดเอาจริงๆแล้วมันอาจเป็นแค่ไสย์ศาสตร์ที่ช่วยคุ้มครองจิตใจของนักลงทุนที่อ่อนแอก็เป็นได้นะครับ!) โดยสิ่งที่พวกเขายึดมั่นก็คือการลงทุนในกลยุทธ์การลงทุนที่อาศัยช่องโหว่จากความไร้ประสิทธิภาพของตลาด และทำตามกลยุทธ์หรือระบบการลงทุนนั้นๆอย่างเข้มงวดและมีวินัยอยู่ตลอดเวลากันต่างหากครับ
ดังนั้นแล้ว สิ่งที่คุณควรทำไม่ว่าจะในปีนี้หรือปีไหนๆ ก็คือการยึดมั่นกับหลักการลงทุนของคุณเอาไว้ อย่ามองแค่ผลลัพธ์ในระยะสั้นๆรายเดือนรายปี เพราะความไร้ประสิทธิภาพแต่ละรูปแบบในตลาดนั้นไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาดตลอดเวลาหรอกนะครับ และจงให้ความสำคัญกับกระบวนการลงทุนที่ดีพร้อมให้ความสำคัญกับความสำเร็จในระยะยาว เพื่อใช้ประโยชน์จากช่องโหว่เหล่านั้นเมื่อเวลาของมันมาถึง
ถ้าคุณมุ่งเน้นการลงทุนเน้นคุณค่า สิ่งที่ดีที่สุดคือการมองหาหุ้นที่ดีและมีราคาต่ำกว่ามูลค่า และเมินเฉยกับอารมณ์ของนายตลาดไปซะ …
ถ้าคุณลงทุนตามแนวโน้มราคา สิ่งที่คุณควรทำคือการมองหาหุ้นที่อยู่ในขาขึ้นที่ชัดเจน และอยู่กับมันจนกว่าแนวโน้มจะจบลง …
และนี่ก็คือคำแนะนำสำหรับการลงทุนในปี 2019 ของพวกเราครับ! ซึ่งผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะยังคงใช้ได้อีกนานแสนนาน หรือจนกว่าที่นักลงทุนทุกคนจะมีเหตุมีผลจนตลาดมีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์จนเราไม่สามารถหากำไรส่วนเกินจากมันแล้วก็เป็นได้
สุดท้ายนี้ ผมขอปิดท้ายบทความด้วยคำพูดของ Warren Buffett ที่ว่า
“ไอ้การพยากรณ์ว่าวันไหนฝนจะตกจนน้ำท่วมโลกน่ะมันไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญกว่าคือคุณมีเรือโนอาห์ของคุณแล้วหรือยัง?”
หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนักลงทุนไทยทุกท่านในปีนี้และปีต่อๆไปครับ 😀
********** ข่าวสารสำคัญจากทาง SiamQuant **********
ประกาศประชาสัมพันธ์งานสัมมนา “เปิดโลกกองทุนส่วนบุคคล สไตล์ A.I. Algo และ Robot” ในวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2019
สำหรับเพื่อนๆนักลงทุนที่อ่านมาจนจบนั้น เราขอแจ้งให้ทราบว่าในวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2019 ที่จะถึงนี้ เราจะได้มีการร่วมมือจัดสัมมนากับทาง บลจ. เอเชียเวลธ์ ในหัวข้อ “เปิดโลกกองทุนส่วนบุคคล สไตล์ A.I. Algo และ Robot” ที่ KX Knowledge Exchange Center ไกล้สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆกันอยู่นะครับ (แต่มีที่นั่งจำกัดนะครับ 55) เพื่อเป็นการ
- เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกองทุนสไตล์ Quant Fund ต่างๆในประเทศไทย ทั้งในเชิงกลยุทธ์และการปฎิบัติใช้ในวงการ
- ตัวอย่างการวิเคราะห์และเลือกสรรกองทุนสไตล์ Quant Fund อย่างเป็นระบบด้วย SiamQuant Grid Tool
- เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจต่างๆเกี่ยวกับการลงทุนอย่างเป็นระบบ
ดังนั้นแล้ว ใครที่มีความสนใจเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนสไตล์ Quant Fund ไม่ว่าจะเป็น Robot, Algo, A.I. ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง รีบลงชื่อกันเข้ามาได้เลยครับ แล้วทางทีมงานจะทำการส่งรายละเอียดการเข้าร่วมสัมมนาโดยละเอียดให้อีกครั้งหนึ่งกันนะครับ แล้วเจอกันครับทุกๆคน
ขอขอบคุณทุกท่านที่สนใจ ขณะนี้จำนวนที่นั่งเต็มแล้วครับ
