Close Menu
SiamQuantSiamQuant
    Facebook YouTube
    Facebook YouTube
    SiamQuantSiamQuant
    ติดต่อเรา
    • กองทุนส่วนบุคคล
    • บทความและงานวิจัย
    • ร่วมงานกับเรา
      • รายละเอียดการรับสมัครทีมงาน
      • Researcher
      • Developer
      • Operations
      • Marketer
    • เกี่ยวกับเรา
      • เกี่ยวกับ SiamQuant
      • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
    • มุมสมาชิก
      • บัญชีของฉัน
      • AlphaClass Video Courses
      • AlphaSuite Installer & Manual
    SiamQuantSiamQuant
    Facebook YouTube
    Home»งานวิจัยและบทความทั้งหมด»ระบบการลงทุน»ระบบการลงทุน MACD-ATH (โดยคุณ มด แมงเม่าคลับ)
    ระบบการลงทุน

    ระบบการลงทุน MACD-ATH (โดยคุณ มด แมงเม่าคลับ)

    มด แมงเม่าคลับBy มด แมงเม่าคลับMay 29, 2020Updated:June 8, 2020No Comments4 Mins Read
    10.5k
    SHARES
    10.5kFacebookXLine

    หลังจากที่ผมได้ทราบว่าข่าวเศร้าว่าคุณ Gerald Appel ผู้คิดค้น MACD Indicator ได้เสียชีวิตลงแล้วจาก Twtter ของ Dr.Alexander Elder เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมานั้น ในวันนี้ผมจึงอยากที่จะนำหนึ่งระบบการลงทุนเก่าเก็บที่ผมได้เคยสร้างเอาไว้โดยมีผลตอบแทนทบต้นกว่า 40 ปีที่ผ่านมาสูงถึงราว 19% ต่อปี มาเผยแพร่ให้นักลงทุนไทยได้รู้จักกัน เพื่อเป็นการระลึกถึงอีกหนึ่งบรมครูผู้คิดค้น Technical Trading Indicator ที่ถูกใช้มากที่สุดรูปแบบหนึ่งบนโลกใบนี้ครับ

    In memoriam: Gerald Appel, 1933 – 2020
    Sad to share that my friend had died of old age. He was one of the giants of modern technical analysis and a successful money manager. His best public memorial is MACD indicator that he invented – it resides on countless computers worldwide pic.twitter.com/Tf0k4u228c

    — Dr Alexander Elder (@Dr_A_Elder) May 27, 2020

    Table of Contents

    Toggle
      • ที่มาของระบบการลงทุน MACD-ATH
    • แนวคิดของระบบการลงทุน MACD-ATH
    • ผลตอบแทนของระบบการลงทุน MACD-ATH
        • รายละเอียดการทดสอบ
        • ผลลัพธ์การทดสอบ
    • ข้อสังเกตและข้อควรระวังในการนำระบบการลงทุน MACD-ATH ไปประยุกต์ใช้
    • บทสรุปของระบบ MACD-ATH

    ที่มาของระบบการลงทุน MACD-ATH

    ก่อนที่ผมจะเล่าถึงแนวคิดของระบบ MACD-ATH ให้ทุกคนได้อ่านกันนั้น ผมอยากขอท้าวความกลับไปถึงสิ่งหนึ่งที่ผมมักจะพูดเสมอก็คือ ความจริงแล้วแม้ MACD จะถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือการวิเคราะห์ทาง Technical Analysis ที่น่าสนใจมาก และถือเป็นนวัตกรรมด้านการวิเคราะห์กราฟราคาในยุค 70 เลยก็ว่าได้ (MACD ถูกเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1979)

    อย่างไรก็ตาม วิธีการใช้ MACD ที่ถูกคนรู้จักและสอนกันโดยทั่วไปอย่างดาดเดื่อน ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณแบบ Zero Line Cross-Over, Signal Line Cross-Over หรือแม้แต่ Divergence ต่างๆนั้น กลับไม่สามารถใช้ได้ผลดีในตลาดหุ้นไทยสักเท่าไหร่นัก (รายละเอียดและผลการทดสอบอ่านได้จากบทความ MACD ดีจริงหรือ?)

    แต่ … สำหรับในวันนี้นั้น เพื่อเป็นเกียรติกับ Gerald Appel บุคคลผู้ที่ทำให้ผมมีที่พึ่งยามยากในช่วงเริ่มต้นการลงทุนของผม (ฮ่าๆ) ผมจึงอยากจะมาเล่าถึงแนวคิดและวิธีการ “บิด” ให้ MACD Indicator ที่อาจให้ผลลัพธ์ที่อาจดูไม่น่าสนใจนัก กลายเป็นอีกหนึ่งระบบการลงทุนที่แสนจะเรียบง่ายแต่ทรงพลัง โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพา Indicator อื่นๆให้วุ่นวายอย่างที่หลายๆคนมักเชื่อกันผิดๆเลยทีเดียว (และแน่นอนว่ามันทรงพลังกว่าหลายๆกลยุทธ์ที่พึ่งพา Indicator เป็นจำนวนมากอีกด้วย) 

    ว่าแล้วก็เริ่มเข้าเรื่องระบบบการลงทุน MACD-ATH ของผมกันเลยดีกว่าครับผม 😀

    แนวคิดของระบบการลงทุน MACD-ATH

    ภาพที่ 1 : ตัวอย่างสัญญาณการซื้อขายของระบบการลงทุน MACD-ATH

    MACD-ATH ย่อจาก Moving Average Convergence Divergence All-Time-High นั่นเองเองครับ (จะอ่านรวบๆว่า “แมคดีเอทีเอช” หรือ “แมคแดท” ก็ตามใจชอบนะครับ :D)  ซึ่งหลายคนน่าจะพอเดาทางออกแล้วบ้างแล้วว่าแนวคิดหลักของมันจะเป็นอย่างไร นั่นก็คือการเข้าซื้อเมื่อค่า MACD มีค่าสูงที่สุดในอดีตที่ผ่านมานั่นเอง!

    แต่ก็อาจจะมีหลายคนสงสัยว่า MACD นั้นถือเป็น Technical Indicator ประเภท Oscillator ที่จะแกว่งไปมาระหว่างค่า 0 เนื่องจากมันถูกคำนวณจากระยะห่างระหว่างเส้น EMA สองเส้น ซึ่งก็คือเส้นสั้นที่ 12 วัน และเส้นยาวที่ 26 วัน ไม่ใช่เหรอ!?

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายคนอาจไม่ได้นึกถึงก็คือค่าระยะห่างระหว่าง MACD นั้นไม่ใช่ค่าระยะห่างแบบร้อยละหรือ Percentage แต่เป็นช่วงห่างของราคาต่างหาก ดังนั้นแล้ว ในมุมหนึ่งแม้มันจะสะท้อนถึงความห่าง แต่อีกมุมหนึ่งที่ลึกกว่านั้น มันก็ได้สะท้อนถึงราคาของหุ้นในขณะนั้นด้วยเช่นกัน

    จากเหตุผลนี้เอง ทำให้การใช้ค่า MACD All-Time-High แทน Price All-Time-High นั้น (เช่นระบบ Mangmao ATH ที่ผมเคยได้เผยแพร่ไว้หลายปีมาแล้ว และยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีดังเดิม อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ Mangmao ATH) จะเป็นการช่วยกรองสัญญาณ False Signal ที่เกิดขึ้นได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการจับเอาเฉพาะสัญญาณที่เกิดขึ้นในขณะที่แนวโน้มของราคาหุ้นเป็นขาขึ้นใหญ่ ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมหรือ Market Anomaly ที่มีประสิทธิภาพในการทำกำไรในตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างมากอีกด้วยนั่นเอง

    โดยที่กลยุทธ์หรือระบบการลงทุน MACD-ATH ที่ผมจะนำมาเผยแพร่ในวันนี้นั้นมีกฎที่ง่ายมากๆ (แต่คุณอาจไม่เคยได้ยินหรือเรียนมาจากที่ไหนเลย :P) และยังใช้ MACD Indicator ในการตัดสินใจเข้าซื้อขายเพียงตัวเดียวเท่านั้นซึ่งก็คือ

    Buy Signal : เข้าซื้อหุ้นเมื่อ MACD อยู่ ณ จุดที่สูงที่สุดในอดีต และมีค่ามากกว่า 0 (เป็นขาขึ้นใหญ่)

    Sell Signal : ขายหุ้นออกเมื่อ MACD มีค่าลดลงต่ำกว่า 0 

    Position Size : ขนาดการลงทุน จะซื้อหุ้นครั้งละ 5% ของมูลค่าพอร์ตทั้งหมดในขณะนั้นเพื่อกระจายความเสี่ยงจาก False Signal ที่จะเกิดขึ้นอยู่เสมอ!

    และนี่ก็คือกฎหลักๆทั้งหมดของระบบการลงทุน MACD-ATH ที่จะช่วยให้เราสามารถสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาดได้อย่างยั่งยืนกันนั่นเอง โดยที่ในส่วนต่อไปจะเป็นผลทดสอบที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นกันว่า “Simple is the best” กันครับ 😀

    ผลตอบแทนของระบบการลงทุน MACD-ATH

    ภาพที่ 2 : ตัวอย่างสัญญาณการซื้อขายจาก MACD-ATH, MACD Zero Line, MACD Signal Line

    หลังจากที่เราได้ทราบถึงแนวคิดของระบบการลงทุน MACD-ATH ไปแล้วนั้น ในคราวนี้ผมจะมาทำการทดสอบถึงประสิทธิภาพ, ผลตอบแทน และความเสี่ยงของมัน โดยจะเปรียบเทียบกับดัชนี SET Index, สัญญาณ MACD Zero Line Cross-Over และ MACD Signal Line Cross-Over เนื่องจากเป็นสัญญาณที่นักลงทุนส่วนใหญ่ชอบใช้กันให้ทุกคนได้ดูกันในคราวเดียวเลยนะครับ

    โดยในบทความนี้นั้นเราจะทำการทดสอบให้พิเศษกันขึ้นสักหน่อย โดยที่ผมจะทำการ Backtest ย้อนหลังยาวถึงราว 40 ปี เนื่องจาก Gerald Appel ได้ทำการเผยแพร่ MACD Indicator เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1979 ผมจึงอยากจะให้ผลของมันสะท้อนช่วงเวลาตั้งแต่มันได้ถูกเผยแพร่ออกมานั่นเอง โดยจะทำการทดสอบตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980-2020 (สิ้นเดือนพฤษภาคม) ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานพอที่จะผ่านวิกฤติเศรษฐกิจทั้งในไทยและระดับโลกถึง 6 ครั้ง! นั่นก็คือ 1) วิกฤติลดค่าเงินบาทและราชาเงินทุน 2) วิกฤติ Black Monday 3) วิกฤติสงครามอ่าวเปอร์เซีย 4) วิกฤติต้มยำกุ้ง 5) วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ 6) วิกฤติ Covid-19

    โดยผลตอบแทนที่คุณจะได้เห็นกันนั้น เป็นผลตอบแทนที่ได้รวมเอาค่า Commission ที่ 0.15% ในการซื้อขายแต่ละครั้ง และ Slippage ในการซื้อขายที่ครั้งละ 1% (รวม 2%) ตามมาตรฐานการทดสอบระบบการลงทุนโดยทั่วไปเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้ครับ

    รายละเอียดการทดสอบ

    ตารางที่ 1 : ตารางแสดงเงื่อนไขสำหรับการทดสอบระบบการลงทุนของ SQ MACD-ATH

    ผลลัพธ์การทดสอบ

    ภาพที่ 3 : ภาพแสดงการเติบโตของพอร์ตโฟลิโอของกลยุทธ์ SQ MACD-ATH (เส้นสีเขียว), SQ MACD Zero Line (เส้นสีฟ้า), SQ MACD Signal Line (เส้นสีแดง) และดัชนี SET Index (เส้นสีดำ) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980-2020 (สิ้นเดือนพฤษภาคม)

    ตารางที่ 2 : ตารางแสดงค่าสถิติเปรียบเทียบระหว่างกลยุทธ์ SQ MACD-ATH, SQ MACD Zero Line Crossover, SQ MACD Signal Crossover และดัชนี SET Index ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980-2020 (สิ้นเดือนพฤษภาคม)

    ตารางที่ 3 : ตารางแสดงผลตอบแทนรายเดือนและรายปีระหว่างกลยุทธ์ SQ MACD-ATH เปรียบเทียบดัชนี SET Index ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980-2020 (สิ้นเดือนพฤษภาคม)

    โดยจากผลการทดสอบย้อนหลังเป็นเวลากว่า 40 ปีนั้น เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าระบบการลงทุน MACD-ATH นั้นได้ให้ผลตอบแทนทบต้นหรือ CAGR ที่สูงถึงราว 19.83% ต่อปี ซึ่งทิ้งห่างกับ Benchmarks เช่น ดัชนี SET Index ที่ 5.75% ต่อปี และสัญญาณการซื้อขายที่ถูกใช้กันโดยทั่วไปอย่าง MACD Zero Line Cross Over และ MACD Signal Line Cross Over แบบไม่เห็นฝุ่น (Signal Line ขาดทุนจนเกือบหมดพอร์ต) แถมระบบ MACD-ATH ยังมีกำไรที่เป็นบวกในปี ค.ศ. 2020 นี้อีกด้วย!

    และในส่วนของความเสี่ยงนั้น มันก็ยังมีอัตราการถดถอยของพอร์ตโฟลิโอหรือ Maximum Drawdown ที่น้อยกว่า Benchmarks ต่างๆเป็นอย่างมากที่ราว -35% ทั้งที่ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจมาถึง 6 ครั้ง ในขณะที่ SET Index มี Max.DD ที่ราว -88% ตามมาด้วย MACD Zero Line ที่ -84% และ MACD Signal Line ที่ -99% เลยทีเดียว

    นอกจากนั้นแล้ว เรายังจะเห็นได้ว่าช่วง Flat Time ที่พอร์ตไม่สามารถสร้าง New High หรือขยับไปไหนได้นั้น ยังยาวนานแค่ 48 เดือน เมื่อเทียบกับดัชนี SET Index ที่ราว 294 เดือน ซึ่งเท่ากับว่ามันสามารถกลับไปมีมูลค่ามากกว่าเดิมเร็วกว่า SET Index ถึงราว 6 เท่า! มันจึงค่อนข้างชัดเจนมากๆว่าระบบการลงทุน MACD-ATH ที่สุดแสนจะเรียบง่ายนี้นั้นมีประสิทธิภาพมากและความเสถียรยั่งยืนมากสักแค่ไหนนั่นเองครับ 😀

    ข้อสังเกตและข้อควรระวังในการนำระบบการลงทุน MACD-ATH ไปประยุกต์ใช้

    ภาพที่ 4 : ภาพแสดงการเติบโตของพอร์ตโฟลิโอของกลยุทธ์ SQ MACD-ATH (เส้นสีเขียว) เปรียบเทียบดัชนี SET Index (เส้นสีดำ) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980-2020 (สิ้นเดือนพฤษภาคม)

    ผมเชื่อว่าถึงตรงนี้ทุกคนคงจะได้เห็นกันอย่างชัดเจนแล้วว่าระบบการลงทุน MACD-ATH นั้นมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน อย่างไรก็ตามหลายคนคงอาจกำลังสงสัยว่าทำไมมันจึงให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการใช้ MACD แบบดั้งเดิมและดัชนี SET Index ขนาดนี้ ซึ่งเหตุผลก็เป็นเพราะ

    1. ระบบการลงทุน MACD-ATH นั้นถูกออกแบบให้จับพฤติกรรมของ “แนวโน้มใหญ่” หรือ Long-Term Momentum/Trend Anomaly ซึ่งมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากและยาวนานในตลาดหุ้นไทย ซึ่งแตกต่างกับสูตรโดยทั่วไปและค่า Default Parameter ซึ่งจะพยายามจับ “แนวโน้ม” ระยะสั้นนั่นเอง
    2. ระบบการลงทุน MACD-ATH มีจุดขายแบบ Trailing Stop Loss ซึ่งจะช่วยขายหุ้นเมื่อแนวโน้มราคาของมันจบลง โดยหุ้นส่วนใหญ่มักเข้าสู่ขาลงใหญ่ในช่วงวิกฤติ มันจึงช่วยให้ปกป้องความเสี่ยงจากวิกฤติเศรษฐกิจต่างๆได้เป็นอย่างดี
    3. ระบบการลงทุน MACD-ATH มีการกระจายความเสี่ยงในระดับสูง จึงช่วยปกป้องความเสียหายจาก False Signal และการขาดทุนที่รุนแรงในหุ้นบางตัว อีกทั้งยังเป็นการ “การจายโอกาส” ให้ไม่พลาดตกรถในการทำกำไรในช่วงที่ตลาดโดยรวมเป็นขาขึ้นนั่นเอง

    ทั้งนี้นั้น เนื่องจากระบบ MACD-ATH อาจทำให้หลายๆท่านเห็นผลตอบแทนแล้วรู้สึกตื่นเต้นกันไม่น้อย ผมจึงอยากที่จะพูดถึง “ข้อควรระวังเพิ่มเติม” ในการนำไปปรับใช้เอาไว้ด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ

    1. ระบบ MACD-ATH เป็นระบบการลงทุนแบบ Long-Term Trend Following (LTTF) มันจึงมี Win Rate ที่ไม่สูงนักเพียงราวๆ 40% ของสัญญาณทั้งหมดเท่านั้น คุณจึงไม่ควรตัดสินผลของมันจากความแม่นยำโดยเฉพาะในระยะสั้นๆ
    2. อย่าได้กลัวสูญเสียกำไรที่เกิดขึ้นในระหว่างการลงทุนไป เนื่องจากกลยุทธ์แบบ LTTF มีธรรมชาติคือขาดทุนบ่อย แต่เวลาได้จะได้ไม้หนักๆ ดังนั้นถ้าคุณแหกระบบรีบชิงขายเพื่อ Take Profit คุณจะทำลายโอกาสที่จะได้กำไรก้อนใหญ่มากลบการขาดทุนก้อนเล็กๆจนระบบพังอย่างแน่นอน
    3. จากการที่ระบบมี False Signal ที่สูงถึง 60% คุณจึงต้องมีวินัยที่จะตัดขาดทุนตามสัญญาณทุกครั้ง เพื่อไม่ให้การขาดทุนกลายเป็นก้อนใหญ่ และทำให้กำไรที่เกิดขึ้นไม่สามารถกลบการขาดทุนได้
    4. ระบบไม่ได้เทพขนาดทกำไรได้ทุกวัน, ทุกเดือน หรือทุกปี (อยากได้ระบบแบบนี้มีแต่ในนิยายนะครับ ขนาดกองทุนระดับตำนานหลายๆกองยังทำไม่ได้เลยครับ :D) โดยจะมีช่วงที่จมอยู่กับการขาดทุน, Flat Period หรือ Underperformance เป็นระยะ ซึ่งสถิติสำคัญที่คุณควรรู้คือช่วง Flat Period ที่ยาวนานที่สุดคือ 4 ปีในช่วงต้มยำกุ้ง คุณจึงต้องมองโลกในระยะยาว และรู้จักรอให้เป็นและทำตามระบบเรื่อยๆจนกว่าตลาดจะเริ่มกลับมาดีอีกครั้ง
    5. ระบบ MACD-ATH เป็นระบบที่มีกำไรโดยเฉลี่ยต่อการซื้อขายในแต่ละครั้งสูงไม่สูงมาก มันจึงเหมาะสมที่จะเป็นกลยุทธ์ให้คนที่มีพอร์ตขนาดเล็กถึงขนาดกลางๆเท่านั้น (ผลการทดสอบนี้ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบจากขนาดของพอร์ตที่จะใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆนะครับ) โดยเมื่อพอร์ตคุณใหญ่ขึ้นคุณจะต้องหาระบบการลงทุนที่เหมาะสมกับขนาดพอร์ตของคุณต่อไป เพราะไม่เช่นนั้น Slippage ที่เกิดจากพอร์ตที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จะค่อยๆกินต้นทุนและ Performance ของคุณจนหมดไปนั่นเอง

    บทสรุปของระบบ MACD-ATH

    สุดท้ายนี้ หลังจากที่ผมได้เล่าเรื่องของระบบการลงทุน MACD-ATH จนจบแล้วนั้น ผมก็ว่าอยากทิ้งท้ายไว้ว่าแม้บทความนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับ MACD Indicator แต่แท้จริงแล้วผมอยากบอกว่า Indicator ต่างๆนั้นไม่ใช่ Holy Grail ที่หลายๆคนพยายามตามหากันสักเท่าไหร่หรอกนะครับ หากแต่มันคือความเข้าใจถึงพฤติกรรมและจุดอ่อนของตลาด แล้วจึงเลือกใช้หรือปรับปรุง Indicator ต่างๆที่คุณมีให้เข้ากับพฤติกรรมในภาพรวมของตลาดที่มีความคงทนในระยะยาวต่างหาก (Robust Anomaly) ซึ่งเมื่อคุณเข้าใจหลักการที่สำคัญตรงนี้แล้ว คุณก็จะสามารถเปลี่ยนกิ่งไม้ (Indicator แย่ๆ) ให้เป็นยอดกระบี่ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก! 

    สำหรับบทความระบบการลงทุน MACD-ATH นี้ก็คงจะขอจบเพียงเท่านี้ หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อย ยังไงใครอ่านแล้วชอบ ผมฝากไลค์ฝากแชร์ ฝากอ้างอิงกลับมาถึงเรา หรือมาใช้บริการต่างๆของ SiamQuant เพื่อสนับสนุนทีมงานกันด้วยนะครับผม แล้วเจอกันใหม่บทความหน้า ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ 😀

    10.5k
    SHARES
    10.5kFacebookXLine
    AlphaSuite Amibroker ATH MACD SiamQuant มด แมงเม่าคลับ
    มด แมงเม่าคลับ
    • Website
    • Facebook
    • X (Twitter)

    ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ "แมงเม่าคลับ" และบริษัท SiamQuant ศูยน์วิจัยออกแบบระบบการลงทุน เพื่อการสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนในตลาดหุ้นไทย

    Related Posts

    รีวิวผลตอบแทน 40 กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยประจำปี ค.ศ. 2022

    January 4, 2023

    รีวิวผลตอบแทน 40 กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยของเดือนมกราคมปี ค.ศ. 2022

    February 7, 2022

    รีวิวผลตอบแทน 40 กลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี ค.ศ. 2021

    January 5, 2022
    Leave A Reply Cancel Reply

    You must be logged in to post a comment.

    Continue with Google
    หมวดหมู่บทความ
    บทความล่าสุด

    สุดยอดสินทรัพย์ทางการเงิน เพื่อการจัดพอร์ตการลงทุนระดับโลกที่ยั่งยืนเหนือกาลเวลา

    November 14, 2025

    มหัศจรรย์แห่งการจัดพอร์ตการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์แบบ Global Strategic Asset Allocation (GSAA)

    November 12, 2025

    🤝 ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง SiamQuant และ Krungthai XSpring (KTX)

    November 11, 2025

    ลงทะเบียนรับข่าวสารและบทความ

    กรอก E-Mail ของคุณ เพื่อติดตามข่าวสาร, องค์ความรู้ และงานวิจัยด้านการลงทุนชิ้นใหม่ๆจากพวกเรา Free!

    Social Medias ของเรา
    • YouTube
    • Facebook
    กองทุนส่วนบุคคลเชิงปริมาณ
    Demo
    Facebook YouTube
    © 2025 Copyright by SiamQuant.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    XEmail
    10.5k
    SHARES
    10.5k