Close Menu
SiamQuantSiamQuant
    Facebook YouTube
    Facebook YouTube
    SiamQuantSiamQuant
    ติดต่อเรา
    • กองทุนส่วนบุคคล
    • บทความและงานวิจัย
    • ร่วมงานกับเรา
      • รายละเอียดการรับสมัครทีมงาน
      • Researcher
      • Developer
      • Operations
      • Marketer
    • เกี่ยวกับเรา
      • เกี่ยวกับ SiamQuant
      • นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
    • มุมสมาชิก
      • บัญชีของฉัน
      • AlphaClass Video Courses
      • AlphaSuite Installer & Manual
    SiamQuantSiamQuant
    Facebook YouTube
    Home»งานวิจัยและบทความทั้งหมด»บทความแปลและสรุป»กฏ 4 % สูตรลับการทำกำไรของ Martin Zweig
    บทความแปลและสรุป

    กฏ 4 % สูตรลับการทำกำไรของ Martin Zweig

    SiamQuant TeamBy SiamQuant TeamJuly 19, 2016Updated:January 12, 2022No Comments2 Mins Read
    4.7k
    SHARES
    4.7kFacebookXLine

    Table of Contents

    Toggle
    • Martin Zweig คือใคร? กฎ 4% เป็นอย่างไร? เรามาหาคำตอบกันในบทความนี้
    • Martin Zweig ร็อคสตาร์แห่งวอลล์สตรีท
    • ทำความรู้จักกับกฎ 4% กันเถอะ
    • ผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว กฎ 4% ยังใช้ได้อยู่หรือ?
    • กฎ 4 % กับตลาดหุ้นในปัจจุบัน
    • ทุกสิ่งล้วนเป็น อนิจจัง
    • ทีมงาน SiamQuant SiamQuant Academy จุดเริ่มต้นของการลงทุนอย่างเป็นระบบ
      •  

    Martin Zweig คือใคร? กฎ 4% เป็นอย่างไร? เรามาหาคำตอบกันในบทความนี้

    Martin Zweig ร็อคสตาร์แห่งวอลล์สตรีท

    ในปัจจุบันหลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อของ Martin Zweig มาก่อน แต่หากย้อนไปเมื่อ 30 ปีก่อนแล้วล่ะก็ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีใครไม่รู้จักเขา

    Martin Zweig ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน ”กูรู” รุ่นบุกเบิกของการลงทุนในสหรัฐ จากการที่เขาสามารถทำนายล่วงหน้าถึงการตกของตลาดหุ้นในเหตุการณ์ Black Monday ได้สำเร็จ จดหมายข่าวแนะนำการลงทุนของเขาในช่วงปี 1980 – 1995 นั้นสามารถสร้างผลตอบแทนโดยเฉลี่ยได้ถึง 15.9% ต่อปีและถูกจัดให้เป็นอันดับหนึ่งของบริการแนะนำการลงทุนทั้งหมดในช่วงเวลานั้น
    นอกจากนี้ Martin Zweig และเพื่อนของเขา Joseph DiMenna ยังได้จัดตั้งเฮดจ์ฟันด์ชื่อ Zweig-DiMenna ขึ้นในปี 1984 โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมทั้งสิ้นกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกองทุนของเขาสามารถสร้างผลตอบแทนโดยเฉลี่ยถึง 18.1% ต่อปี ได้เป็นระยะเวลานานต่อเนื่องหลายสิบปี

    Gene Glaser ผู้ซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของเขาเคยให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg(1) ไว้ว่า “ทุกครั้งที่ Marty เดินทางไปจัดรายการหรือให้สัมภาษณ์ จะมีคนมากมายรอคอยเพื่อขอลายเซ็นต์และถามคำถามเกี่ยวกับตลาดหุ้น ทำให้เขาดูไม่ต่างจากดาราดังเลยทีเดียว”

    ทำความรู้จักกับกฎ 4% กันเถอะ

    Martin Zweig ได้เขียนถึงเทคนิคในการเลือกจังหวะเวลาการลงทุนของเขาในหนังสือ Winning on Wall Street ปี 1994 โดยใช้ชื่อว่า “กฎ 4%” ซึ่งมีเนื้อความดังต่อไปนี้(2)

    “การใช้กฎ 4% ในตลาดหุ้นสามารถทำได้โดยพิจารณาราคาปิดรายสัปดาห์ของ Value line composite index ซึ่งเป็นดัชนีราคาเฉลี่ยแบบไม่ถ่วงน้ำหนักของหุ้นประมาณ 1,700 ตัว. หากราคาปิดดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 4% จากราคาต่ำสุด ถือว่าเกิดสัญญาณซื้อ จากนั้นหากราคาปิดลดลงอย่างน้อย 4% จากราคาสูงสุด ถือว่าเกิดสัญญาณขาย. ระบบนี้เป็นระบบ Trend following ที่ถูกออกแบบมาเพื่อบังคับให้คุณอยู่กับแนวโน้มของตลาด”

    ผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว กฎ 4% ยังใช้ได้อยู่หรือ?

    เพื่อไขข้อข้องใจเราจะมาดูผลงานวิจัยของ Steve LeCompte(3) ซึ่งทำการทดสอบการใช้กฎดังกล่าวกับ ETFs 4 ชนิดคือ SPY, QQQ, IWM, RSP โดยใช้ข้อมูลราคาปิดรายสัปดาห์ของ Value line geometric index และข้อมูลราคาเปิดรายสัปดาห์ ( ซึ่งทำการปรับเงินปันผลแล้ว ) ของ ETFs ทั้ง 4 ชนิด ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงเดือนกันยายน ปี 2014 ในการทดสอบ โดยมีรายละเอียดของสัญญาณซื้อขายดังต่อไปนี้

    1. ทำการระบุสัญญาณซื้อ/ขายเริ่มแรกก่อน
    2. หลังสัญญาณซื้อ สัญญาณขายครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นเมื่อราคาปิดลดลงอย่างน้อย 4% จากราคาปิดสูงสุดก่อนหน้า
    3. หลังสัญญาณขาย สัญญาณซื้อครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นเมื่อราคาปิดเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 4% จากราคาปิดต่ำสุดก่อนหน้า

    สมมุติฐานสำหรับการทดสอบในครั้งนี้คือ

    1. เมื่อสิ้นสัปดาห์หากมีสัญญาณซื้อขายเกิดขึ้น จะทำการเข้าซื้อ/ขายที่ราคาเปิดของ ETFs ในสัปดาห์ถัดไป
    2. เงินสดที่อยู่ในบัญชีจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราเทียบเท่ากับผลตอบแทนจากตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือน
    3. ไม่มีการขายชอร์ต ( Long only strategy )
    4. พิจารณาผลลัพธ์ ณ ระดับค่าธรรมเนียมการซื้อขายต่างๆตั้งแต่ 0% – 0.5%
    5. ไม่รวมผลกระทบทางภาษีต่างๆ

    กฎ 4 % กับตลาดหุ้นในปัจจุบัน

    ผลตอบแทนจากการใช้กฎ 4 % กับ SPY, QQQ, IWM, RSP โดยที่ไม่มีค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ถูกแสดงไว้ในกราฟต่อไปนี้ตามลำดับ โดยได้แสดงผลตอบแทนจากการใช้กลยุทธ์ buy-and-hold กับ ETFs เหล่านั้นไว้เพื่อเป็นเกณฑ์เปรียบเทียบ

    SPY
    รูปที่ 1 : กราฟแสดงตอบแทนของ SPY

    QQQรูปที่ 2 : กราฟแสดงตอบแทนของ QQQ

    IWMรูปที่ 3 : กราฟแสดงตอบแทนของ IWM

    RSPรูปที่ 4 :กราฟแสดงตอบแทนของ RSP

    จากกราฟแสดงผลตอบแทนพบว่ากฎ 4%:

    • ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าการใช้กลยุทธ์ buy-and-hold
    • มีความผันผวนและ drawdown ต่ำกว่าการใช้กลยุทธ์ buy-and-hold
    • ใช้ได้ดีในกลุ่มตัวอย่างที่มีสภาวะตลาดหมีเป็นส่วนใหญ่เช่น QQQ และ IWM

    ตารางต่อไปนี้ได้สรุปค่าสถิติที่สำคัญของการทดสอบกฎ 4% กับ ETFs ทั้ง 4 ชนิด โดยได้แสดงค่าสถิติจากการใช้กลยุทธ์ buy-and-hold กับ ETFs เหล่านั้นไว้เพื่อเป็นเกณฑ์เปรียบเทียบเช่นเดียวกัน

    STAT

    รูปที่ 5 : ตารางสรุปค่าสถิติที่สำคัญของผลการทดสอบ

    จากตารางสรุปค่าสถิติที่สำคัญพบว่ากฎ 4 %:

    • ถือ ETFs โดยเฉลี่ยประมาณ 2 ใน 3 ของระยะเวลาการทดสอบทั้งหมด
    • มีผลตอบแทน ซึ่งวัดจากค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนรายสัปดาห์ ต่ำกว่าการใช้กลยุทธ์ buy-and-hold
    • มีความเสี่ยง ซึ่งวัดจากค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของผลตอบแทนรายสัปดาห์ ต่ำกว่าการใช้กลยุทธ์ buy-and-hold
    • มีค่าผลตอบแทนต่อความเสี่ยง ใกล้เคียงกับการใช้กลยุทธ์ buy-and-hold
    • มีมูลค่าสุดท้ายของเงินลงทุน ต่ำกว่าการใช้กลยุทธ์ buy-and-hold
    • มีค่า Maximum drawdown ต่ำกว่าการใช้กลยุทธ์ buy-and-hold

    ผลกระทบของค่าธรรมเนียมการซื้อขายถูกสรุปไว้ในกราฟด้านล่างนี้ โดยได้แสดงมูลค่าสุดท้ายของเงินลงทุนจากการใช้กฎ 4 % กับ IWM ( ซึ่งมีผลการทดสอบดีที่สุดใน ETFs ทั้ง 4 ชนิด ) ณ ระดับค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่แตกต่างกันตั้งแต่ 0% จนถึง 0.5%. ในการทดสอบนั้น IWM มีการซื้อขายรวม 100 ครั้ง ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นถึงผลกระทบไม่ว่าค่าธรรมเนียมการซื้อขายจะเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม

    Comatprice

    รูปที่ 6 : กราฟแสดงผลกระทบของค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ณ ระดับต่างๆ

    ทุกสิ่งล้วนเป็น อนิจจัง

    โดยสรุป ผลการทดสอบเบื้องต้นไม่พบหลักฐานสนับสนุนว่ากฎ 4% ของ Martin Zweig สามารถใช้เป็นเครื่องมือที่ดีในการเลือกจังหวะเวลาการลงทุนได้

    เมื่อเวลาผ่านไปทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นระบบที่เยี่ยมยอดสักเพียงใดย่อมมีโอกาสสูญเสียความสามารถในการทำกำไรไปสักวันหนึ่ง นักลงทุนควรจะตระหนักถึงเรื่องดังกล่าว และหมั่นพัฒนาตนเองรวมถึงระบบให้พร้อมรับมือกับสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอ

    ทีมงาน SiamQuant
    SiamQuant Academy จุดเริ่มต้นของการลงทุนอย่างเป็นระบบ

     

    Reference
    1. Tomoko Yamazaki. ( 2013 ). Martin Zweig, Who Predicted 1987 Market Crash, Dies at 70
    2. Martin Zweig. ( 1997 ). Martin Zweig’s Winning on Wall Street. NY: Warner Books
    3. Steve LeCompte. ( 2014 ). Martin Zweig’s Four Percent Model

    SQA Ads for Video Post 1-3 Ratio

    4.7k
    SHARES
    4.7kFacebookXLine
    SiamQuant Team
    • Website
    • Facebook
    • X (Twitter)

    Admin ผู้ดูแลเว็บไซต์ SiamQuant.com ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อการแบ่งปันความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการลงทุนอย่างเป็นระบบให้กับนักลงทุนไทย

    Related Posts

    ระบบการลงทุน “หุ้นห่านทองคำ”

    May 19, 2020

    หลักการลงทุน “อย่างเป็นระบบ” ของ Benjamin Graham

    May 17, 2020

    รู้จักกับ Behavioral Finance ความลับที่จะทำให้คุณลงทุนได้ดียิ่งขึ้น!

    May 6, 2020
    Leave A Reply Cancel Reply

    You must be logged in to post a comment.

    Continue with Google
    หมวดหมู่บทความ
    บทความล่าสุด

    สุดยอดสินทรัพย์ทางการเงิน เพื่อการจัดพอร์ตการลงทุนระดับโลกที่ยั่งยืนเหนือกาลเวลา

    November 14, 2025

    มหัศจรรย์แห่งการจัดพอร์ตการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์แบบ Global Strategic Asset Allocation (GSAA)

    November 12, 2025

    🤝 ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง SiamQuant และ Krungthai XSpring (KTX)

    November 11, 2025

    ลงทะเบียนรับข่าวสารและบทความ

    กรอก E-Mail ของคุณ เพื่อติดตามข่าวสาร, องค์ความรู้ และงานวิจัยด้านการลงทุนชิ้นใหม่ๆจากพวกเรา Free!

    Social Medias ของเรา
    • YouTube
    • Facebook
    กองทุนส่วนบุคคลเชิงปริมาณ
    Demo
    Facebook YouTube
    © 2025 Copyright by SiamQuant.

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    XEmail
    4.7k
    SHARES
    4.7k