บทความพิเศษ

รีวิวประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุน Mangmao All-Time-High หลังวิกฤติโควิด-19

SiamQuant Team
ติดตามพวกเรา

เนื่องจากช่วงวิกฤติ Covid-19 ที่พึ่งผ่านมานั้น ทำให้พอร์ตโฟลิโอของนักลงทุนหลายคนต้องเผชิญกับความเสียหายและความผันผวนที่รุนแรงมากๆ จนทำให้นักลงทุนหลายคนพยายามมองหากลยุทธ์ซึ่งจะช่วยปกป้องความเสี่ยงจากตลาดหุ้นขาลงและวิกฤติเศรษฐกิจที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นอีกในเวลาไม่ช้า 

ในบทความนี้ผมจึงจะขอนำเอากลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter (MATHSET) ที่ผมได้เคยเผยแพร่ไว้ในหนังสือ “แมงเม่าคลับ” เมื่อ 5 ปีที่แล้ว มาทำการรีวิว Performance ของมันในช่วงเวลากว่า 30 ปีทีผ่านมา จนมาถึงวิกฤติ Covid-19 ที่เราพึ่งจะผ่านพ้นกันไปอีกครั้งหนึ่ง 

เพื่อที่จะช่วยเป็นแนวทางให้นักลงทุนอีกหลายๆคนได้เห็นว่ากลยุทธ์การลงทุนสไตล์ Trend Following ที่เรียบง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพนี้นั้น ยังคงสามารถที่จะปกป้องความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกเหนือตลาดหุ้นไทยได้อีกครั้งหนึ่งครับ!

กลยุทธ์ Mangmao All-Time-High คืออะไร?

กลยุทธ์การลงทุน Mangmao All-Time-High (ต่อจากนี้จะขอเรียกสั้นๆว่า Mangmao ATH นะครับ) คือระบบการลงทุนที่ผมได้เปิดเผยเอาไว้ในหนังสือ “แมงเม่าคลับ แบ่งปันความรู้ในการเล่นหุ้นอย่างเป็นระบบ” ซึ่งวางจำหน่ายในช่วงต้นปี ค.ศ. 2015 ซึ่งได้อาศัยเอาหลักของกลยุทธ์การลงทุนตามแนวโน้มในระยะยาวหรือ Long-Term Trend Following มาปรับใช้ โดยมีหัวใจหลักอยู่ที่การเข้าซื้อหุ้นเมื่อราคาของมันได้ทำจุดสูงสุดใหม่ขึ้น (All-Time-High Breakout) และทำการขายหุ้นทิ้งไปเมื่อแนวโน้มของราคาหุ้นได้กลายเป็นขาลงในทันที

โดยที่ระบบ Mangmao ATH นั้น ได้ใช้ประโยชน์จากช่องโหว่หรือความไร้ประสิทธิภาพของตลาดที่เรียกว่า Absolute Momentum Anomaly ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนในตลาดนั้นมักที่จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลข่าวสารที่ “ล่าช้า” กว่าความเป็นจริง (Under-Reaction) โดยแทนที่ข่าวสารใหม่ๆจะถูกยอมรับในทันทีตามที่ทฤษฎีตลาดมีประสิทธิภาพได้กล่าวไว้ แต่นักลงทุนในตลาดกลับจะค่อยๆเกิดการยอมรับต่อข้อมูลชิ้นใหม่ภายในระยะเวลาหนึ่ง จนก่อให้เกิดเป็นแนวโน้มของราคาหุ้นที่ทอดยาวขึ้นมา แทนที่ราคาจะวิ่งไปสู่จุดเหมาะสมในทันทีดังภาพด้านล่างนี้

ภาพที่ 1 : ภาพแสดงพฤติกรรมของนักลงทุน โดยเส้นสีเขียวคือระดับราคาที่ควรจะเป็น ส่วนเส้นประคือราคาหุ้น โดยจะสังเกตุได้ว่าเมื่อระดับราคาที่ควรจะเป็นนั้นได้เปลี่ยนไปแล้วในกลางภาพ แต่แทนที่ราคาหุ้นจะวิ่งไปที่ระดับราคานั้นในทันที แต่มันกลับต้องอาศัยระยะเวลาในการไต่ระดับขึ้นไป จนก่อให้เกิดเป็นแนวโน้มของราคาหุ้นขึ้น และเป็นโอกาสให้กลยุทธ์การลงทุนตามแนวโน้มหรือ Trend Following สามารถหาโอกาสในการทำกำไรจากตลาดได้ (ที่มา งานวิจัยของกองทุน Hedge Fund AQR)

กลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter กับการผสานแนวคิดในการจัดการความเสี่ยงเมื่อตลาดหุ้นโดยรวมเป็นขาลง

โดยหลังจากที่คุณได้เข้าใจถึงหลักการในเบื้องต้นไปเรียบร้อยแล้วนั้น ผมก็จะขอแนะนำให้คุณได้รู้จักกับกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter (MATHSET) กันเพิ่มเติมกันสักเล็กน้อย เพราะมันคือกลยุทธ์ที่จะถูกนำมาทดสอบถึงประสิทธิภาพกันในบทความนี้ เนื่องจากมันถือเป็นระบบการลงทุนที่ถูกพัฒนาไว้อย่างครบถ้วนที่สุดในหนังสือ “แมงเม่าคลับ” ที่ผมได้เผยแพร่ออกไปนั่นเอง

โดยที่ระบบการลงทุน MATHSET นั้น จะมีการผสมผสานเอาแนวคิดในการกำหนดขนาดการลงทุนและการจัดการความเสี่ยงเพิ่มเติมเข้าไป (Money & Risk Management) จากระบบ Mangmao ATH ดั้งเดิม โดยสามารถเขียนเป็นกฎในการลงทุนโดยสรุปได้ดังนี้

  • Universe : หุ้นทุกตัวในตลาดหุ้นไทย
  • Entry Filter : 
    • ตลาดหุ้นหรือดัชนี SET Index ต้องเป็นขาขึ้นเมื่อวัดจาก Donchian Channel 20 วัน
    • มูลค่าการซื้อขายโดยเฉลี่ยภายใน 20 วันที่ผ่านมาต้องมากกว่า 1 ล้านบาท
  • Entry Timing : เมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์หรือ All-Time-High
  • Exit Timing : เมื่อราคาหลุดเส้นค่าเฉลี่ยในระดับ 50 วัน
  • Position Size : กำหนดขนาดการลงทุนจากความผันผวนของราคาหุ้น โดยป้องกันความเสี่ยงไม่ให้เสียหายเกิน 1% ของพอร์ตในการซื้อขายแต่ละครั้ง (โดยเฉลี่ยราวๆครั้งละประมาณ 5% ของพอร์ตโฟลิโอ)

โดยเมื่อเกิดสัญญาณขึ้นนั้น ระบบจะทำการเข้าซื้อขายในวันทำการถัดไป ซึ่งแสดงให้เห็นเป็นลักษณะของสัญญาณการซื้อขายได้ดังภาพตัวอย่างนี้

ภาพที่ 2 : สัญญาณซื้อขายหุ้นของระบบการลงทุน Mangmao All-Time-High with SET Filter โดยสีเขียวคือช่วงเวลาที่ระบบเข้าซื้อและถือหุ้น ส่วนสีแดงคือช่วงเวลาที่ระบบได้ทำการขายหุ้นทิ้งไป

หมายเหตุ 1 : กลยุทธ์ MATHSET นั้นถูกออกแบบไว้เพื่อการลงทุนอย่างเป็นระบบสำหรับนักลงทุนรายย่อยเพียงเท่านั้น เนื่องจากมันได้ถูกคำนวณถึงข้อจำกัดด้านสภาพคล่อง (Liquidity) ไว้สำหรับพอร์ตโฟลิโอขนาดเล็กถึงกลางเท่านั้น หากคุณมีพอร์ตโฟลิโอขนาดใหญ่ในระดับ 5 ล้านบาทขึ้นไป กลยุทธ์จะต้องถูกปรับปรุงในเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้สามารถรองกับขนาดพอร์ตโฟลิโอได้อีกครั้งหนึ่งครับ

เงื่อนไขการทดสอบประสิทธิภาพของกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter

สำหรับผลลัพธ์และเงื่อนไขการทดสอบระบบการลงทุน MATHSET ในบทความนี้นั้น ผมจะใช้เงื่อนไขเดียวกับในหนังสือ “แมงเม่าคลับ” เกือบทุกประการ (เนื่องจากถือเป็นระดับความเข้มงวดในการทดสอบที่คล้ายคลึงกับบรรดากองทุนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน) ยกเว้นแต่การเปลี่ยนมาใช้ฐานข้อมูล Hybrid Database ของ SiamQuant ที่ได้ถูกทำการปรับปรุงย้อนหลัง (Back-Adjusted) ทั้งในเชิงของ Corporate Action และ Dividend เพิ่มเข้าไป เนื่องจากในปัจจุบันนี้ การนำเอาเงินปันผลรวมเข้าไปในการ Backtest นั้น ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานโดยทั่วไปของผู้พัฒนาระบบการลงทุนส่วนใหญ่ โดยเราสามารถสรุปถึงเงื่อนไขในการทดสอบได้ดังนี้

  • เงินลงทุนตั้งต้น : 1 ล้านบาท
  • ฐานข้อมูล (Database) : SiamQuant AlphaSuite Hybrid Database
  • ลักษณะของการส่งคำสั่ง (Order Type) : ราคาเปิดในวันถัดไป (Next Open)
  • ความคลาดเคลื่อนของราคาซื้อขาย (Slippage) : เพิ่มขึ้นเมื่อเข้าซื้อ (หรือลดเมื่อสั่งขาย) จากราคาเปิด เป็นระยะช่วงราคาราว 25% ของระยะทางการเคลื่อนไหวของหุ้นในวันที่ถูกซื้อขาย

ซึ่งสำหรับข้อมูลชี้วัดประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุน MATHSET นั้น ผมจะทำการแสดงเฉพาะตัวเลขสำคัญซึ่งมีผลต่อจิตวิทยาการลงทุนดังนี้

  • CAGR % หรือผลตอบแทนทบต้นโดยเฉลี่ยต่อปี
  • Max DD % หรืออัตราการย่อตัวสูงสุดของพอร์ตโฟลิโอขณะการลงทุน
  • Longest DD หรือระยะเวลาความยาวนานในย่อตัวของพอร์ตโฟลิโอก่อนทำมูลค่าสูงสุดใหม่อีกครั้ง
  • MAR Ratio หรืออัตราส่วนผลตอบแทนและความเสี่ยงระหว่าง CAGR % หารด้วย Max DD% ซึ่งจะช่วยชี้ให้เห็นถึงโอกาสของผลตอบแทนและความเสียหายสูงสุดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการลงทุน 
  • Sharpe Ratio หรืออัตราส่วนผลตอบแทนส่วนเกิน (Excess Return) หารด้วยอัตราความผันผวนของผลตอบแทนส่วนเกิน (Excess Return Standard Deviation) ซึ่งจะช่วยชี้ให้เห็นถึงโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเกินจากตลาด ต่อความผันผวนส่วนเกินจากตลาดของพอร์ตโฟลิโอ

โดยที่ผลลัพธ์ของการทดสอบระบบการลงทุน MATHSET ในช่วงเวลากว่า 30 ปีจนถึงวิกฤติ Covid-19 หรือตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990/01/01-2020/06/30 นั้นได้ให้ผลลัพธ์ดังนี้

ผลตอบแทนของกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter ในภาพรวมตั้งในช่วงเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา

ภาพที่ 3 : การเติบโตของเงินทุนของกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter (MATHSET) เปรียบเทียบกับดัชนี SET Index ในภาพรวมระยะยาวตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990-2019 (31 ตุลาคม)

ตารางที่ 1 : ผลตอบแทนและความเสี่ยงของกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter (MATHSET) เปรียบเทียบกับดัชนี SET Index ตามช่วงเวลาต่างๆ

โดยในการทดสอบประสิทธิภาพของกลยุทธ์ MATHSET ในภาพรวมนั้น ผมได้ทำการแยกทดสอบระบบ MATHSET ออกเป็น 4 ช่วงเวลา เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงประสิทธิภาพและความเสถียรของระบบในช่วงเวลาต่างๆโดยมีข้อสังเกตดังนี้

  1. ช่วงเวลา 1990-2020Q2 : แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์ในภาพรวมระยะยาวกว่า 30 ปี โดยมันได้ผ่านทั้งช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง (1997-2000) แฮมเบอร์เกอร์ไครซิส (2008) และวิกฤติ Covid-19 (2020) ที่พึ่งผ่านมา โดยสามารถที่จะสร้างผลตอบแทนทบต้นที่เหนือกว่าตลาดสูงราว 24.77% ต่อปี (พอร์ตโต 705.66 เท่า) นอกจากนั้นแล้ว ในขณะที่ดัชนีตลาดหรือ SET Index เกิด Maximum Drawdown หรือการถดถอยของมูลค่าที่สูงถึง -88% ในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง แต่กลยุทธ์ก็ยังคงรักษาระดับความเสียหายไว้ได้ดีกว่าตลาดเป็นอย่างมากที่ราว -30% เท่านั้น
  2. ช่วงเวลา 1990-1999 : แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์ในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอยจากวิกฤติต้มยำกุ้ง โดยเราจะพบว่าแม้ในช่วงเวลาที่ตลาดหรือดัชนี SET Index นั้นให้ผลตอบแทนที่ติดลบเฉลี่ยถึงปีละ -6.21% นั้น กลยุทธ์การลงทุน MATHSET ก็ยังคงสามารถที่จะสร้างผลตอบแทนทบต้นที่เป็นบวกได้ที่ราว 9.36% ต่อปีเลยทีเดียว
  3. ช่วงเวลา 2000-2009 : แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง แต่ก็ยังต้องเจอกับวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในช่วงปลายของคาบเวลาการทดสอบ อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ก็ยังคงสามารถที่จะรักษาประสิทธิภาพของมันเอาไว้ได้ โดยให้ผลตอบแทนทบต้นโดยเฉลี่ยที่สูงถึง 30.98% ในขณะที่ดัชนี SET Index ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ราว 4.07% ต่อปีเท่านั้น
  4. ช่วงเวลา 2010-2020Q2 : แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุนในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ภายหลังจากที่กลยุทธ์ MATHSET ได้ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางเมื่อ 5 ปีที่แล้ว รวมถึงช่วงวิกฤติ Covid-19 ใน Wave แรกเอาไว้ด้วยนั้น แต่กลยุทธ์ก็ยังคงสามารถสร้างผลตอบแทนทบต้นได้ที่ราว 33.05% ในขณะที่ดัชนี SET Index ให้ผลตอบแทนทบต้นที่ราว 6.11% เท่านั้น

ดังนั้นแล้วเราจึงจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า กลยุทธ์การลงทุน Mangmao All-Time-High with SET Filter (MATHSET) นั้น เป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพและความเสถียรยั่งยืนสูงมากๆในระยะยาวเลยทีเดียว! 

จะเกิดอะไรขึ้น หากคุณเริ่มต้นลงทุนด้วยกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter เมื่อต้นปี ค.ศ. 2020 ก่อนเกิดวิกฤติ Covid-19

สำหรับในส่วนสุดท้ายซึ่งเป็น Highlight ของบทความนี้ ผมจะแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ว่าหากคุณได้เริ่มต้นลงทุนด้วยเงินลงทุน 1 ล้านบาท เมื่อต้นปี ค.ศ. 2020 จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในการลงทุนเป็นอย่างมากในการลงทุน โดยที่นักลงทุนต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้ายต่างๆ ทั้งจากความตรึงเครียดของการเมืองระหว่างประเทศ และวิกฤติ Covid-19 ที่พึ่งจะลดระดับความรุนแรงลงไป ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือกลยุทธ์ MATHSET นั้น ไม่เพียงแต่ที่จะไม่ขาดทุน แต่กลับสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกเหนือตลาดในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้นั่นเอง!

ภาพที่ 4 : Performance ของกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter (MATHSET) เปรียบเทียบกับดัชนี SET Index แบบ Year-to-Date (YTD) 2020/01/01-2020/06/30 โดยที่

  • ช่องด้านบนสุด เส้นสีเทาคือกราฟการเติบโตของกลยุทธ์ MATHSET และเส้นสีดำคือดัชนี SET Index 
  • ช่องที่สองตรงกลางคือกราฟแสดงความเสียหายของพอร์ตโฟลิโอหรือ Drawdown โดยเส้นสีแดงคือ Drawdown ของกลยุทธ์ MATHSET และเส้นสีดำคือ Drawdown ของดัชนี SET Index
  • ช่องที่สามด้านล่างสุดคือกราฟแสดงจำนวนการถือหุ้นของกลยุทธ์ MATHSET
  • หมายเหตุ : กราฟนี้ถูกสร้างโดยอัตโนมัติจาก SiamQuant Amibroker AlphaSuite

โดยเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหากเราเริ่มต้นลงทุนในช่วงต้นปีนั้น กลยุทธ์ MATHSET จะค่อยๆทยอยซื้อจนถือหุ้นอยู่ราว 10 ตัว (ช่องสีเขียวด้านล่างคือจำนวนหุ้นที่ถือ) แต่ในเดือนกุมภาพันธ์นั้นกลยุทธ์ MATHSET ก็ได้เริ่มทยอยขายหุ้นที่ถืออยู่ออกโดยอัตโนมัติจนไม่เหลือหุ้นอยู่ในพอร์ตเลยในช่วงเดือนมีนาคม เนื่องจากหุ้นหลายๆตัวเริ่มสูญเสียโมเมนตัมจนกลายเป็นแนวโน้มขาลง อีกทั้งยังไม่เกิดสัญญาณการเข้าซื้อหุ้นใหม่ๆเลยเมื่อวิกฤติ Covid-19 ได้เริ่มต้นขึ้น 

จึงเป็นผลทำให้ในขณะที่ดัชนี SET Index เริ่มร่วงหล่นลงมาจนก่อให้เกิด Drawdown ที่ลึกถึง -35.99% นั้น กลยุทธ์ MATHSET กลับเกิด Drawdown สูงสุดในปีนี้เพียงแค่ราวๆ -10.37% เท่านั้น หลังจากนั้น เมื่อตลาดเริ่มฟื้นตัวกลับมา กลยุทธ์ MATHSET ก็ได้เริ่มต้นทยอยเข้าซื้อหุ้นอีกครั้งหนึ่งในเดือนเมษายน พร้อมกับค่อยๆฟื้นตัวกลับมาสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวก และทำ Portfolio New High ในปีนี้ได้อีกครั้งหนึ่งในเดือนมิถุนายนที่พึ่งผ่านมานั่นเอง

บทสรุปผลการทดสอบกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High with SET Filter หลังวิกฤติ Covid-19

จากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้น คุณคงจะได้รู้ถึงคำตอบเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความเสถียรของกลยุทธ์ Mangmao All-Time-High กันไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่ถึงแม้ว่าระบบการลงทุน MATHSET นั้นจะเป็นกลยุทธ์ที่สุดแสนจะเรียบง่าย, ถูกเปิดเผยอย่างกว้างขวาง และยังไม่เคยได้ถูกปรับเปลี่ยนเงื่อนไขหรือ Parameter ใดๆของระบบเลยมากว่า 5 ปีแล้ว แต่มันก็ยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่เช่นเดิม ซึ่งได้แสดงให้เราเห็นอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่งว่า

  • ช่องโหว่ในการทำกำไรจากปรากฎการณ์ความไร้ประสิทธิภาพของตลาดที่เรียกว่า Momentum Anomaly นั้นได้เกิดขึ้นและยังคงมีอยู่ในปัจจุบันในตลาดหุ้นไทยมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว
  • ระบบการลงทุนที่วางตนเองอยู่บนปรากฎการณ์ความไร้ประสิทธิภาพของตลาดที่ยั่งยืนนั้น ก็ยังคงจะสามารถสร้างผลกำไรได้ดี ตราบเท่าที่ปรากฎการณ์เหล่านี้ยังคงอยู่ 
  • “ความเรียบง่าย” นั้นไม่จำเป็นต้องทำให้ผลตอบแทนของคุณนั้นด้อยกว่า “ความซับซ้อน” โดยที่เราจะเห็นได้ว่าระบบ MATHSET นั้นได้ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าระบบการลงทุนที่ซับซ้อนกว่าระบบการลงทุนอีกหลายๆระบบในช่วงเวลาเดียวกัน อาทิเช่นในช่วงปี ค.ศ. 2009-2018 ซึ่งระบบให้ผลตอบแทนทบต้นโดยเฉลี่ยกว่า 37.88% ต่อปี และยังคงสามารถให้ผลตอบแทนทบต้นที่สูงกว่าตลาดเป็นอย่างมาก ภายหลังจากที่มันได้ถูกเปิดเผยออกมาเรียบร้อยแล้วก็ตาม

ดังนั้นแล้ว จะเห็นได้ว่าแม้โลกของการลงทุนจะเปลี่ยนแปลงไปสักเท่าไหร่ แต่ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับพฤติกรรมของตลาด, การบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี รวมถึงวินัยในการลงทุนที่เข็มงวด ก็ยังคงจะเป็นกุญแจสำคัญต่อการสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนอยู่ต่อไป! และนี่ก็คือทั้งหมดของการรีวิวประสิทธิภาพของกลยุทธ์การลงทุน Mangmao All-Time-High ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ ผมหวังว่าจะมีประโยชน์และช่วยเป็นข้อพิสูจน์ถึงข้อสงสัยต่างๆให้กับทุกคนครับ 😀

ข่าวประชาสัมพันธ์ :

สำหรับคนที่พยายามตามหาหนังสือ “แมงเม่าคลับ แบ่งปันความรู้ในการเล่นหุ้นอย่างเป็นระบบ” กันอยู่นะครับ โดยขอแจ้งว่าตอนนี้หนังสือไม่มีขายตามร้านหนังสือโดยทั่วไปแล้ว เนื่องจากหมดระยะสัญญาวางแผงกับ Distributor ต่างๆ ดังนั้น ใครที่สนใจสั่งหนังสือที่เหลืออยู่ล็อตสุดท้ายนี้ก็ขอให้รีบสั่งกันได้ที่ตามลิงค์นี้นะครับ เนื่องจากเราจะไม่ทำการพิมพ์เพิ่มเติมเมื่อหนังสือหมดแล้วนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่สนใจครับ 😀

Write A Comment