องค์ความรู้จากการลงทุนอย่างเป็นระบบ

ทำไมปี 2023 จึงยังคงเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย?

Koedkao Peeratiyuth

คุณกำลังขาดทุนอย่างหนักกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยอยู่ใช่ไหม? ไม่ต้องท้อแท้กันจนเกินไปนะครับ! เพราะนั่นคือสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างก็กำลังต้องเผชิญกันอยู่!! (ไม่ว่าเขาจะยอมรับกับคุณหรือไม่ก็ตาม) โดยในบทความนี้เราจะมาทำการรีวิวถึงผลตอบแทนของหุ้นส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นไทย ที่จะทำให้คุณได้เข้าใจถึงเหตุผลและความยากลำบากของการลงทุนในปีนี้ รวมไปถึงการประมาณการผลตอบแทนของนักลงทุนส่วนใหญ่ในปี ค.ศ. 2023 นี้ ด้วยมุมมองจาการลงทุนอย่างเป็นระบบเชิง Quantitative & Systematic Investing อย่างเป็นรูปธรรมกันครับ! 😀

สภาวะตลาดที่ย่ำแย่ คือสิ่งที่มีผลกระทบต่อผลตอบแทนของนักลงทุนส่วนใหญ่ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้!

ผมเชื่อว่าในขณะนี้นั้น น่าจะมีนักลงทุนหลายๆท่านที่อาจกำลังเครียดหรือท้อแท้ใจกับผลการลงทุนในปี ค.ศ. 2023 นี้กันอยู่พอสมควร 😂 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผมและทีมงาน SiamQuant ได้ทำการรีวิวและตรวจสอบข้อมูลเชิงปริมาณในแง่มุมต่างๆของตลาดหุ้นไทย รวมไปถึงผลตอบแทนกลยุทธ์การลงทุนในรูปแบบต่างๆกันไปเรียบร้อยแล้วนั้น ผมจึงอยากจะบอกกับทุกๆคนว่า … ความจริงแล้ว คุณอาจไม่ควรที่จะต้องโทษตัวเองเกินไปกับผลตอบแทนที่เกิดขึ้นในปีนี้สักเท่าไหร่นัก!

ทำไมน่ะหรือครับ? … นั่นก็เพราะจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก, ความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศและต่างประเทศ และผลกระทบที่ยังคงค้างคาของโรคระบาด Covid-19 ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2020 และยังคงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ ได้ทำให้ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบากในการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง 

โดยหนึ่งในสภาวะหรือเงื่อนไขที่สำคัญที่สุดในการทำกำไรของกลยุทธ์การลงทุนหลายๆรูปแบบนั้น ก็คือสภาวะตลาดหุ้นในภาพรวมที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ซึ่งเราจะสามารถสังเกตุได้ง่ายๆจากค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนของหุ้นส่วนใหญ่ของตลาดกันนั่นเอง (Overall Stocks Average Return) โดยหากว่าค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของหุ้นส่วนใหญ่ในตลาดเป็นบวกนั้น เราก็มักพบว่าผลตอบแทนของกลยุทธ์การลงทุนส่วนใหญ่ก็จะเป็นบวก และติดลบเมื่อค่าเฉลี่ยของหุ้นส่วนใหญ่ติดลบด้วยเช่นเดียวกันนั่นเอง!

ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นไทยจึงมักรู้สึกหมดหวังกับการลงทุนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยเราจะเห็นถึงสัจธรรมในข้อนี้ได้อย่างชัดเจนจากกราฟแสดงความสัมพันธ์ (Correlation) ระหว่างค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนจากหุ้นทั้งหมดในตลาดหุ้นไทย กับค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของกลยุทธ์การลงทุนชื่อดังกว่า 36 รูปแบบในตลาดหุ้นไทย ภายใต้บริการ SiamQuant AlphaSuite ที่ถือเป็นตัวแทนของกลยุทธ์การลงทุนประเภทต่างๆที่ได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวาง อาทิเช่น กลยุทธ์การลงทุนเชิงคุณค่า (Value Investing), กลยุทธ์การลงทุนในหุ้นเติบโต (Growth Investing), กลยุทธ์การลงทุนตามแนวโน้ม (Trend Following) หรือกลยุทธ์การลงทุนแบบผสมผสาน (Hybrid Investing)

ภาพที่ 1 : Box Plot แสดงการกระจายตัวของผลตอบแทนจากลยุทธ์การลงทุน AlphaSuites 36 รูปแบบในแต่ละปี (Strategies Yearly Returns Box plot) ตั้งแต่ปี 1997-2023 เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยผลตอบแทนจากหุ้นทุกตัวในตลาด (All Stocks Yearly Returns เส้นสีน้ำเงิน)

หมายเหตุที่ 1 : เราเลือกใช้ค่าเฉลี่ยผลตอบแทนจากหุ้นทั้งตลาด แทนผลตอบแทนของดัชนี SET Index เนื่องจาก SET Index มักสะท้อนผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่ในตลาดเสียเป็นส่วนใหญ่ นักลงทุนสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : 

SET Index ไม่ใช่ตัวชี้วัดผลการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับคุณเสมอไป :
https://www.siamquant.com/set-index-fallacy/

SET Equal Weighted Index ดัชนี Benchmark ทางเลือกสำหรับนักลงทุนไทย :
https://www.siamquant.com/setew/

ผลการประมาณการผลตอบแทนของนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย จากกลยุทธ์การลงทุนต้นแบบและผลการจำลองพอร์ตโฟลิโอด้วยการสุ่มกว่า 10,000 รูปแบบในปี ค.ศ. 2023

เพื่อการคาดการณ์ถึงผลตอบแทนของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นไทยนั้น เราได้ทำการตรวจสอบถึงผลตอบแทนของกลยุทธ์การลงทุนต้นแบบจากนักลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลกในตลาดหุ้นไทย ภายใต้บริการ SiamQuant AlphaSuites โดยมีเงื่อนไขและข้อกำหนดในการทดสอบวิจัยที่เทียบเคียงได้กับพอร์ตโฟลิโอขนาดเล็กของนักลงทุนรายย่อย (ใส่เฉพาะเงื่อนไข Commission + Slippage แต่ยังไม่ใส่ผลกระทบของขนาดพอร์ตและสภาพคล่องของหุ้น) โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ผลตอบแทนของหุ้นในตลาดหุ้นไทยในปี ค.ศ. 2023

Stock Yearly Return
# Number of Stocks 812
Average -22.55%
Median -25.21%
Minimum -93.84%
Maximum 336.84%
STDev 27.75%

ภาพที่ 2 และตารางที่ 1 : สถิติการกระจายตัวของผลตอบแทนของหุ้นในตลาดหุ้นไทย ในปี ค.ศ. 2023 

โดยเราพบว่าหุ้นส่วนใหญ่กว่า 86% ในตลาดหุ้นไทยให้ได้ผลตอบแทนที่ติดลบ โดยมีค่าเฉลี่ยผลตอบแทนอยู่ที่ราว -22.55% เลยทีเดียว โดยที่ดัชนี SET Index ซึ่งถือเป็นตัวแทนของหุ้นขนาดใหญ่นั้นติดลบอยู่ที่ราว -16.64% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะตลาดหุ้นไทยที่ย่ำแย่อย่างชัดเจนในปี ค.ศ. 2023

ผลตอบแทนของกลยุทธ์การลงทุนที่มีชื่อเสียงกว่า 36 กลยุทธ์ ในปี ค.ศ. 2023

เพื่อการคาดการณ์ถึงผลตอบแทนของนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นไทยนั้น เราได้ทำการตรวจสอบถึงผลตอบแทนของกลยุทธ์การลงทุนต้นแบบจากนักลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลกในตลาดหุ้นไทย ภายใต้บริการ SiamQuant AlphaSuites โดยมีเงื่อนไขและข้อกำหนดในการทดสอบวิจัยที่เทียบเคียงได้กับพอร์ตโฟลิโอขนาดเล็กของนักลงทุนรายย่อย (ใส่เฉพาะเงื่อนไข Commission + Slippage แต่ยังไม่ใส่ผลกระทบของขนาดพอร์ตและสภาพคล่องของหุ้น) โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

Condition Details
Backtesting Window
  • ตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 1997 จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2023 
Backtesting Restriction
  • เงินทุนเริ่มต้น 1 ล้านบาท
  • อัตราค่า Commission 0.15% (รวมซื้อขาย 0.3%)
  • Long Only
Universe
  • All Stocks หุ้นทุกตัวในตลาดหลักทรัพย์
Entry
  • ตามแนวคิดของแต่ละระบบ
Exit
  • ตามแนวคิดของแต่ละระบบ
Position Size
  • ตามแนวคิดของแต่ละระบบ
Position Score
  • ตามแนวคิดของแต่ละระบบ
Order Management
  • ทำการซื้อขายราคาเปิด (Open) ของวันถัดไปของวันที่เกิดสัญญาณ)

 

หมายเหตุที่ 2 : สำหรับกลยุทธ์ที่นำมาแสดงในบทความชิ้นนี้ เป็นกลยุทธ์การลงทุนภายใต้บริการ AlphaSuite ทั้งหมด ยกเว้นกลยุทธ์ที่ไม่สามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวที่เป็นบวก (Positive Returns) ได้ในช่วงระยะเวลาที่ทำการทดสอบ เช่น กลยุทธ์การลงทุน SQ Simple MACD, SQ OOPs และ SQ Turtle Trading Signals ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น โดยการเทรดในระดับความถี่ที่สูงมากจะทำให้ระบบการลงทุนเหล่านี้ถูกค่าคอมมิสชั่นและสลิปเพจกัดกินผลตอบแทนจนก่อให้เกิดผลที่ติดลบ นอกจากนี้ สำหรับกลยุทธ์ที่มีการซื้อขายน้อยมากเนื่องจากเงื่อนไขการคัดกรองหุ้นที่มากจนเกินไป เช่น กลยุทธ์การลงทุน CANSLIM ซึ่งตลอดช่วงระยะเวลาการทดสอบราวๆ 26 ปีกว่านั้นกลยุทธ์มีการซื้อขายทั้งสิ้นเพียง 51 ครั้ง เราก็จะคัดกรองออกไปด้วยเนื่องจากผลตอบแทนที่เกิดขึ้นเป็นผลตอบแทนจากการถือครองเงินสดเป็นสัดส่วนหลักของพอร์ตโฟลิโอนั่นเอง

 

System Net Profit (%)
SQ The Golden Goose -2.10%
SQ PE Band -2.17%
SQ TenBagger -2.41%
SQ ZULU Principle -3.03%
SQ Earning Surprise Direhaus -4.98%
SQ Mangmao ATH with SET Filter -6.06%
SQ 52 Week High -6.27%
SQ Mangmao ATH -11.85%
SQ Darvas -12.21%
SQ Livermore -12.85%
SQ Buffettology -14.67%
SQ Rinen System -14.79%
SQ Marc Lichtenfeld 10-11-12 -16.01%
SQ Chowder Rule -18.45%
SQ Tiny Titan -18.91%
SQ Z-Score 1985 -19.01%
SQ Z-Score 1968 -19.29%
SQ Walter Schloss -20.37%
SQ Oberweis Octagon -20.52%
SQ NCAV Graham -20.96%
SQ F-Score -21.61%
Avg. Stock Yearly Returns (%) -21.81%
SQ Buffettology (Modified) -22.04%
SQ TenBagger (Modified) -22.32%
SQ Kenneth Fisher Growth Stock -22.68%
SQ CANSLIM (Modified) -24.14%
SQ Elder Triple Screen With Force index -24.18%
SQ Minervini Trend template -24.20%
SQ Enterprise Multiple -24.90%
SQ MACD-ATH -25.17%
SQ Elder Triple Screen With MACD -25.23%
SQ Shareholder Yield -25.43%
SQ Fibo Triple Moving Average -26.00%
SQ Elder Triple Screen With Force index (Modified) -28.57%
SQ Magic Formula -28.96%
SQ Elder Triple Screen With MACD (Modified) -33.29%
SQ EdSeyKoTa -43.77%

ตารางที่ 2 : ตารางแสดงผลตอบแทนของกลยุทธ์การลงต้นแบบจากนักลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลกในตลาดหุ้นไทย ภายใต้บริการ SiamQuant AlphaSuites ในปี ค.ศ. 2023

SQ AlphaSuites Yearly Return Drawdown Drawdown Length (Bars)
#Strategies 36 36 36
Average -18.60% -43.18% 1289.83
Median -20.44% -40.81% 605.5
Minimum -43.77% -80.94% 123
Maximum -2.10% -13.32% 4905
STDev 9.47% 18.10% 1049.74

ตารางที่ 3 : สถิติผลตอบแทนรายปี (Yearly Return), อัตราการถดถอย (Drawdown) และระยะเวลาในการถดถอย (Drawdown Length) ของของกลยุทธ์การลงต้นแบบจากนักลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลกในตลาดหุ้นไทย ภายใต้บริการ SiamQuant AlphaSuites ในปี ค.ศ. 2023

โดยจากข้อมูลข้างต้นนั้น เราจะสังเกตได้ว่ากลยุทธ์การลงทุนกว่า 36 รูปแบบได้ให้ผลตอบแทนติดลบทั้งหมดภายในปีนี้! โดยมีผลตอบแทนรายปีหรือ Yearly Return ที่ติดลบเฉลี่ยถึงราว -20.44% และมีอัตราการถดถอยในปัจจุบันหรือ Drawdown โดยเฉลี่ยอยู่ที่ราว -40.81% อีกทั้งยังมีระยะเวลาในการถดถอยหรือ Drawdown Length ยาวนานโดยเฉลี่ยถึงราว 605 วันทำการ หรือพูดง่ายๆว่าพอร์ตโฟลิโอของกลยุทธ์การลงทุนส่วนใหญ่นั้นไม่สามารถที่จะกลับขึ้นไปมีมูลค่ามากกว่าเดิมมาเกือบ 3 ปีเลยทีเดียว! เราจึงถือได้ว่าในขณะนี้นั้น มันถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างปฎิเสธไม่ได้!!

ผลตอบแทนของการจำลองพอร์ตโฟลิโอด้วยการสุ่มกว่า 10,000 รูปแบบ ในปี ค.ศ. 2023

นอกเหนือจากผลตอบแทนกลยุทธ์ต้นแบบกว่า 36 รูปแบบในข้างต้นนั้น เรายังได้สร้างพอร์ตโฟลิโอจำลองด้วยการถือหุ้นแบบสุ่ม (Random Rotational Portfolio) ตามช่วงระยะเวลาต่างๆด้วยการสับเปลี่ยนหุ้นรายเดือน (Monthly), รายไตรมาส (Quarterly), รายครึ่งปี (Half-Year) และรายปี (Yearly) เพื่อเป็นตัวแทนของนักลงทุนประเภทต่างๆนอกเหนือไปจากกลยุทธ์ที่ได้กล่าวถึงในข้างต้น ภายใต้การทดสอบในระดับเดียวกัน ได้ให้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้

Portfolio Returns (%) Monthly Quarterly Half-Year Yearly
#Portfolio 10,000 10,000 10,000 10,000
Average -37.45% -29.77% -26.12% -26.10%
Median -37.48% -29.70% -26.82% -26.10%
Minimum -45.20% -37.88% -36.29% -34.69%
Maximum -24.99% -16.16% -16.46% -14.71%
STDev 4.03% 3.99% 4.21% 4.09%

ภาพที่ 3 และตารางที่ 4 : ภาพการกระจายและค่าสถิติเชิงของผลตอบแทนประจำปี ค.ศ. 2023 จากพอร์ตโฟลิโอแบบหมุนเวียนหลักทรัพย์แบบสุ่มตามช่วงระยะเวลาต่างๆ

โดยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2023 นี้นั้น ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพอร์ตโฟลิโอจำลองตามระยะเวลาในการสับเปลี่ยนหุ้นต่างๆกว่า 10,000 รูปแบบเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ได้ให้ผลตอบแทนที่ติดลบด้วยกันทั้งสิ้น! โดยพอร์ตโฟลิโอที่มีการซื้อขายที่ถี่มากๆนั้นมีแนวโน้มที่จะมีระดับผลตอบแทนที่ย่ำแย่กว่าเนื่องจากผลกระทบจากต้นทุนการซื้อขายหรือ Slippage ที่มีผลต่อพอร์ตโฟลิโอนั่นเอง (การทดสอบในครั้งนี้ใส่ยังไม่ได้ใส่ผลกระทบของขนาดพอร์ตและสภาพคล่องของหุ้นลงไป ดังนั้นแล้วผลตอบแทนจริงของนักลงทุนส่วนใหญ่จึงอาจย่ำแย่กว่าผลจำลองนี้ได้ไม่ยากนัก)

เราต้องอยู่ให้รอดในตลาดที่ย่ำแย่ เพื่อรอคอยการทำกำไรเมื่อตลาดได้กลับมาเอื้ออำนวยอีกครั้งหนึ่ง

สุดท้ายนี้นั้น แม้ว่ามันอาจจะฟังแล้วดูเจ็บปวดสักเท่าไหร่ แต่ผมก็คงจะต้องขอบอกกับทุกท่านอีกครั้งหนึ่งว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนมีความสามารถและมีประสบการณ์ในการลงทุนมากสักแค่ไหนนั้น หากว่าคุณยังคงต้องเผชิญกับสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยในการลงทุนอยู่ มันก็ย่อมที่จะเป็นไปได้ยากที่คุณจะสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างเป็นกอบเป็นกำขึ้นมาท่ามกลางสภาวะเหล่านั้น

ซึ่งอันที่จริงแล้วนั้น นักลงทุนชั้นเซียนระดับโลกส่วนใหญ่ที่เรารู้จักหรือเคยได้ยินชื่อ ก็ล้วนแล้วแต่เคยต้องเผชิญกับช่วงเวลาของตลาดที่โหดร้ายเช่นเดียวกันกับพวกเรามาแล้วทั้งสิ้น (อ่านเพิ่มเติม : ถอดรหัสผลตอบแทน โคตรตำนานเซียนหุ้นระดับโลก!) ดังนั้นแล้ว ผมจึงคิดว่านักลงทุนเองจึงอาจไม่ควรที่จะต้องรู้สึกท้อแท้สิ้นหวังและโทษตัวเองกับผลการลงทุนในปีนี้จนมากเกินไปนัก เพราะสัจธรรมของตลาดหุ้นที่เราได้มาพิสูจน์ในวันนี้กันนั่นก็คือ การทำกำไรก้อนโตได้อย่างงดงามนั้นจะเป็นไปแทบไม่ได้เลยหากสภาวะตลาดนั้นไม่เอื้ออำนวยนั่นเอง

นักลงทุนที่มีความเก่งกาจอย่างแท้จริงนั้น คือนักลงทุนที่สามารถจะใช้ประโยชน์จากสภาวะตลาดที่เอื้ออำนวยได้อย่างเหมาะสม และสามารถปกป้องตนเองไม่ให้ขาดทุนอย่างหนักจนมากเกินไปในช่วงเวลาที่สภาวะตลาดนั้นย่ำแย่และโหดร้าย โดยคุณควรจะต้องเข้าใจถึงสัจธรรมที่ว่า “การตกปลาในเวลาที่ไม่มีปลานั้นย่อมไม่ได้ปลา” และคุณควรจะต้องเรียนรู้ที่จะเป็นดังวลีที่ว่า “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้” เพื่อเฝ้ารอโอกาสทำกำไรในวันที่ท้องฟ้าเปิดอีกครั้งหนึ่งในที่สุด

ผมเองหวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่สดใสของตลาดหุ้นไทยกันขึ้นบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ และหวังว่าสถิติค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของหุ้นไทยทั้งตลาดนั้นจะยังคงติดลบอย่างต่อเนื่องไม่เกิน 2 ปีอยู่เช่นเคย! เพื่อให้พวกเราทุกคนได้หายใจโล่งปอดกันขึ้นกันสักหน่อย 

ด้วยความปรารถนาดีจากผมและทีมงาน SiamQuant ทุกคนครับ 😃


“My financial success stands in stark contrast with my ability to forecast events. Good investing is boring. Survive first and make money afterwards.” — George Soros

Write A Comment